5 อันดับ คอนแทคเลนส์รายวัน รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อคอนแทคเลนส์รายวันแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง คอนแทคเลนส์รายวัน นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในคอนแทคเลนส์รายวันอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ คอนแทคเลนส์รายวันแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
2. Bausch & Lomb : Naturelle คอนแทคเลนส์สีรายวัน (1 Box : 15 Pairs) พร้อมส่งทุกสี ทุกค่าสายตา
3. คอนแทคเลนส์ บอชแอนด์ลอมบ์ Naturelle คอนแทคเลนส์รายวัน
4. Bausch&Lomb BIOTRUE ONEDAY คอนแทคเลนส์ใสรายวัน สําหรับสายตาสั้น
5. Acuvue 2 คอนแทคเลนส์ราย 2 สัปดาห์ 1 Box 3 Pairs)
คอนแทคเลนส์รายวัน เป็นคอนแทคเลนส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็ว เพราะเมื่อใช้เสร็จแล้วสามารถถอดทิ้งได้ทันทีโดยไม่ต้องดูแลรักษาความสะอาดมากเท่ากับคอนแทคเลนส์แบบรายเดือน อีกทั้งยังสามารถเลือกใส่ในวันที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ต้องการความคล่องตัว อย่างเช่น การเล่นกีฬาที่ท้าทาย, การออกกำลังกาย หรือในวันที่ต้องการความมั่นใจหรือความสวยงามเป็นพิเศษ อย่างเช่น วันแต่งงาน, วันสัมภาษณ์งาน เป็นต้น
ทั้งนี้ คอนแทคเลนส์รายวันมีหลายประเภท ในบทความนี้ทางทีมงานจึงทำการศึกษาข้อมูลและรวบรวมคอนแทคเลนส์รายวันที่น่าสนใจมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้เปรียบเทียบคุณสมบัติ และราคาของคอนแทคเลนส์รายวันแต่ละชนิดได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เชิญติดตามได้จากเนื้อหาด้านล่างได้เลยค่ะ
คอนแทคเลนส์รายวันนั้นมีให้เลือกมากมาย หลายแบรนด์ หลายรุ่น เพื่อน ๆ คงอยากทราบข้อมูลแล้วว่าควรเลือกอย่างไรดี ดังนั้น ในบทความนี้ทางทีมงานจะนำเสนอวิธีการเลือกคอนแทคเลนส์รายวันที่สามารถใส่ได้ในทุกวันที่ต้องการ
ในการเลือกคอนแทคเลนส์ต้องเลือกให้ตรงกับค่าสายตาของตนเอง เพราะค่าสายตาของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เพื่อที่จะทราบถึงค่าสายตาของตนเองให้แม่นยำที่สุดนั้น ควรเลือกตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้ง บนใบสั่งค่าสายตาจะมีข้อมูลดังต่อไปนี้ที่สำคัญ ได้แก่
- BC (Base Curve) : ความโค้งงอของเลนส์ที่เหมาะสม
- DIA (Diameter) : เส้นผ่านศูนย์กลางที่เหมาะสม
- PER (Frequency) : ค่าสายตา (สายตาสั้น / สายตายาว)
- CYL (Astigmatism Power) : ค่าสายตาเอียง
สำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ควรเลือกเลนส์ที่มีการซึมผ่านของออกซิเจนสูง เพราะเวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนนั้น จะเพ่งสมาธิไปที่หน้าจอเป็นหลัก จึงทำให้จำนวนการกะพริบตามีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้เลนส์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาสั้นหรือสายตายาวจะมีความหนามากขึ้น จึงทำให้ดวงตาตกอยู่ในสภาวะขาดออกซิเจนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คอนแทคเลนส์ที่ทำจากวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจลจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม เพราะออกซิเจนสามารถผ่านได้ง่าย ค่าสัมประสิทธิ์การซึมผ่านของออกซิเจนจะแสดงเป็น DK/L หรือ Dk/t ซึ่งก็คือ ค่าการผ่านของออกซิเจน (Oxygen Transmissibility) โดยแปรเปลี่ยนไปตามชนิดของวัสดุที่ใช้ในการผลิตเลนส์และความหนาของเลนส์ ยิ่งมีค่ามากเท่าใดยิ่งแสดงถึงปริมาณออกซิเจนที่สามารถซึมผ่านเลนส์ได้มากเท่านั้น
หากคุณมีปัญหาตาแห้งง่าย ให้เลือกคอนแทคเลนส์จาก "ปริมาณน้ำหรือค่าอมน้ำ (Water Content)" ซึ่งหมายถึงปริมาณน้ำที่บรรจุในคอนแทคเลนส์ โดยทั่วไปหากปริมาณน้ำน้อยกว่า 50% จัดเป็นคอนแทคเลนส์ที่มีปริมาณน้ำต่ำ และถ้าปริมาณน้ำมากกว่า 50% จะจัดเป็นคอนแทคเลนส์ที่มีปริมาณน้ำสูง
ยิ่งปริมาณน้ำสูงก็ยิ่งสวมใส่สบาย แต่เมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่งเมื่อเลนส์มีน้ำไม่พอ ก็จะดูดน้ำในตาทำให้ตาแห้งง่ายขึ้น ดังนั้นแล้ว แม้คอนแทคเลนส์จะมีค่าปริมาณน้ำสูง แต่ชนิดของวัสดุและค่าสายตาส่งผลให้ตัวเลนส์หนาและบางไม่เท่ากันซึ่งส่งผลให้การนำ Oxygen ต่างกันแม้มีค่าอมน้ำที่เท่ากัน
ดังนั้นแล้ว หากเป็นคอนแทคเลนส์แบบรายเดือนหรือรายปี ค่าปริมาณน้ำควรมีปริมาณปานกลางถึงต่ำ เนื่องจากระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนคอนแทคเลนส์แบบรายวันควรเลือกที่มีค่าปริมาณน้ำสูง เนื่องจากมีระยะเวลาการใช้งานที่สั้นกว่า
เมื่อไม่นานมานี้ คอนแทคเลนส์แบบรายวันก็มีคุณสมบัติตัดรังสี UV ได้ จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรังสีอัลตราไวโอเลตที่เข้าตา
อีกทั้ง คอนแทคเลนส์แบบรายวันบางประเภท สามารถลดแสงสีฟ้าได้ด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนบ่อยครั้งหรือเป็นระยะเวลานาน
ราคาของคอนแทคเลนส์แบบรายวัน อยู่ที่ประมาณ 450-2,000 บาทต่อกล่อง (15 คู่) ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและคุณสมบัติของคอนแทคเลนส์นั้น ๆ การเลือกคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมกับตนเองและสั่งซื้อในจำนวนมาก จะทำให้ราคาต่อกล่องลดลง ช่วยประหยัดและลดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ในกรณีที่ค่าสายตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คอนแทคเลนส์กล่องหนึ่งไม่สามารถใช้กับดวงตาทั้งสองข้างได้ ทั้งนี้ ผู้ผลิตบางเจ้าได้ผลิตคอนแทคเลนส์แบบกล่องหลายขนาด ตั้งแต่กล่องละ 5 คู่ไปจนถึงกล่องละ 15 คู่ ให้เลือกซื้อตามความเหมาะสมของการใช้งาน และอย่าลืมซื้อให้ตรงกับค่าสายตาแต่ละข้างของตนเองด้วยนะคะ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะเข้าใจวิธีการเลือกคอนแทคเลนส์แบบรายวันมากขึ้น ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าคอนแทคเลนส์ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมกับผู้อ่านทุกท่านจะมีรุ่นไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
มาต่อกันที่ยี่ห้อดังในเมืองไทยอย่าง Bausch & Lomb ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับการไล่เฉดสีในตัวคอนแทคเลนส์อย่างสมจริงเป็นธรรมชาติ ใส่แล้วไม่ดูหลอกตาหรือดูน่ากลัว ตัวเม็ดสีปลอดภัยและไม่ระคายเคืองต่อดวงตาเพราะมี Micro Encapsulation ซึ่งมีคุณสมบัติหุ้มเม็ดสีเอาไว้ไม่ให้สัมผัสกับตาโดยตรง นอกจากนี้ยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาด้วยเทคโนโลยี Comfort Moist ที่ช่วยปล่อยความชุ่มชื้น ช่วยให้คุณรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่
คอนแทคเลนส์ของ Acuvue รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งไว ด้วยเทคโนโลยี Lacreon ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเลนส์อย่างยาวนานจากแกนกลางไปจนถึงผิวเลนส์ วัสดุที่ใช้ในการผลิตทำจาก Etafilcon A เป็นเลนส์เนื้อนุ่ม การออกแบบรูปร่างของเลนส์เป็นแบบ Infinity Edge Design เข้ากันได้ดีกับลักษณะรูปร่างของดวงตา ทำให้ใส่สบายและยังปกป้องดวงตาจากรังสี UVA, UVB ได้ด้วย
สำหรับใครที่มองหาคอนแทคเลนส์รายวันที่มีสีสันให้เลือกมากถึง 7 สี ต้องขอแนะนำ 1-DAY ACUVUE DEFINE รุ่นนี้ที่ยังคงนวัตกรรม LACREON ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่ภายในเลนส์ และแม้จะเป็นคอนแทคเลนส์ที่มีสีก็ไม่ต้องกลัวว่าจะระคายเคืองกว่าแบบใส เพราะออกแบบให้ชั้นสีอยู่ระหว่างชั้นเลนส์ ไม่ได้ถูกผิวของดวงตาโดยตรง พร้อมทั้งไม่ก่อให้เกิดเงาหรือรบกวนการมองเห็นของสีคอนแทคเลนส์ขณะสวมใส่เพราะขอบสีจะอยู่แค่รอบขอบตาดำเพียงเท่านั้น อีกทั้งยังป้องกันแสงแดด UVA และ UVB อีกด้วยค่ะ
หากพูดถึง Maxim ถือเป็นยี่ห้อที่ขึ้นชื่อเรื่องคอนแทคเลนส์ที่มีสีสันให้เลือกมากมาย ในราคาที่ไม่สูงมากนัก สำหรับรุ่นนี้เป็นคอนแทคเลนส์ไล่สีแบบ 3-Tone ทำให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ อีกทั้งขนาดเท่าตาดำปกติ และความพิเศษของรุ่นนี้คือรองรับค่าสายตาที่สั้นเยอะมาก สูงสุดถึง -12.00 เลยทีเดียว ผู้ใช้จริงต่างให้ความเห็นว่าใส่แล้วรู้สึกสบายตา ด้วยเนื้อเลนส์ที่ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป ทำให้การสวมใส่ง่ายขึ้น มั่นใจได้ว่าแม้เป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดใส่คอนแทคเลนส์ก็สามารถใส่ได้อย่างแน่นอนค่ะ
มาต่อกันที่ Maxim อีกรุ่นหนึ่งกันเลยนะคะ ด้วยภาพลักษณ์ของ Maxim อาจทำให้หลาย ๆ คนนึกถึงคอนแทคเลนส์ที่มีสีสัน ขนาดกลมโต แต่ในครั้งนี้ Maxim ได้นำเข้าคอนแทคเลนส์แบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม โดยรุ่นนี้เป็นคอนแทคเลนส์สีใสจากอเมริกา ที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติมากมาย เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาตาแห้ง ต้องทำงานในห้องปรับอากาศตลอดทั้งวัน หรือผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นประจำ อีกทั้งสวมใส่ง่าย ผู้ที่เพิ่งใส่คอนแทคเลนส์เป็นครั้งแรกก็สามารถเลือกสวมใส่ได้
สำหรับ Alcon รุ่นนี้ เป็นคอนแทคเลนส์ที่นำเข้าจากเยอรมัน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนแทคเลนส์สีที่ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับดวงตา ต้องขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการพิมพ์สี 3 ชั้น โดยชั้นนอกสุดเน้นตัดขอบเพื่อให้เห็นสีชัดขึ้น ส่วนชั้นกลางเป็นชั้นหลักที่แสดงถึงสีของคอนแทคเลนส์ และสุดท้ายชั้นในสุดคือลวดลายบนคอนแทคเลนส์ อีกทั้งมีขนาดปกติเท่ากับตาดำ ทำให้ดูไม่ตาโตมากเกินไปค่ะ
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Alcon รุ่นนี้ มีองค์ประกอบน้ำสูงถึง 69% และสารให้ความชุ่มชื้น 3 ชนิด ได้แก่ HPMC, PEG400 และ PVA อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเทคโนโลยี Triple Action Moisture ที่ให้ความชุ่มชื้นตั้งแต่เริ่มใส่จนถึงสิ้นสุดวัน และ Blink-Activated Mechanism ที่ยิ่งกระพริบตาก็ยิ่งปล่อยความชุ่มชื้นออกมา ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติทั้งหมดของคอนแทคเลนส์รุ่นนี้ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาแห้ง หรือต้องการความสบายตาตลอดวันที่สวมใส่
ACUVUE Oasys รุ่นนี้ ความพิเศษอยู่ตรงที่ เทคโนโลยี Tear Infused Design มีความพิเศษไม่ทำให้ตาแห้ง เพราะคอนแทคเลนส์จะเข้ากับชั้นน้ำตาได้เป็นอย่างดี และเนื้อเลนส์ผลิตจาก Silicone Hydrogel ซึ่งถือเป็นวัสดุที่เหมาะกับตาของเราทั้งในด้านของการผ่านของออกซิเจนหรือเรื่องของความชุ่มชื้น และมีค่าอมน้ำต่ำ เมื่อวัสดุไม่ต้องการค่าน้ำเยอะ ๆ ดังนั้นจะดูดน้ำตาออกมาจากดวงตาของเราน้อยลง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ช่วยให้ไม่เกิดอาการระคายเคืองหรือตาแห้งระหว่างสวมใส่ ทำให้ระยะเวลาในการสวมใส่ยาวนานมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับส่วนผสมของสารป้องกันรังสี UV และแม้ว่าเนื้อเลนส์จะมีความบางแต่สามารถตั้งทรงได้ดี จึงทำให้สวมใส่ได้ง่าย
มาต่อกันที่อันดับนี้ก็ยังคงเป็น Bausch & Lomb ที่โด่งดังและได้รับความนิยมจากทั้งในและนอกประเทศ สำหรับรุ่นนี้ มีความพิเศษที่ตัวเนื้อเลนส์ ผลิตจาก Hypergel ซึ่งเป็นวัสดุหนึ่งเดียวที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยองค์ประกอบของปริมาณน้ำที่ใกล้เคียงกับดวงตาของมนุษย์ อีกทั้งมีค่าการซึมผ่านของออกซิเจนที่สูงกว่าคอนแทคเลนส์ทั่วไป ชิ้นเลนส์บรรจุในสาร Poloxamine ช่วยให้ผิวเลนส์ชุ่มชื้น ทำให้สามารถใส่ได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และด้วย Advanced Aspheric Optics ที่ช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดแม้ในภาวะแสงน้อย
สำหรับ Bausch & Lomb รุ่นนี้ เป็นรุ่นมาตรฐานที่ผู้สวมใส่คอนแทคเลนส์เลือกใช้กันเป็นจำนวนมาก เป็นรุ่นที่ออกซิเจนสามารถไหลเวียนในดวงตาได้ดี อีกทั้งวัสดุที่ใช้ทำเลนส์มีจุดเด่นตรงที่ปราศจากไฟฟ้าสถิตย์ ทำให้คราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่สะสมที่เนื้อเลนส์ ตัวเลนส์เลนส์รับกับความโค้งกระจกตาได้มาก มาพร้อมกับ Aspheric Optics ที่แม้ในภาวะแสงน้อยก็ช่วยให้เห็นภาพได้คมชัด ผู้ที่เพิ่งเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ก็สามารถใส่ได้ เพราะผู้ใช้จำนวนมากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าง่ายต่อการใส่และถอดออก และแม้ว่ารุ่นนี้จะมีแบบรายเดือนด้วยเช่นกัน แต่ความแตกต่างของทั้งสองแบบนั้นอยู่ที่น้ำที่แช่ในเนื้อเลนส์ แบบรายวันแช่ในสารเก็บความชุ่มชื้น แต่แบบรายเดือนแช่ในน้ำเกลือ จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ใช้หลายคนเลือกใส่แบบรายวัน เพราะใส่แล้วสบายตามากกว่าแบบรายเดือนนั้นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความที่ทางทีมงานได้จัดหามาสำหรับวิธีการเลือกคอนแทคเลนส์รายวันให้เหมาะสมกับการใช้งานและชีวิตประจำวันของผู้อ่านแต่ละคน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นในการเลือกซื้อ
ก่อนเลือกซื้อทุกครั้งก็อย่าลืมพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม สิ่งที่สำคัญคือ แม้จะเป็นคอนแทคเลนส์แบบรายวันที่สะดวก สามารถใช้แล้วทิ้งได้ในทันที แต่ก็ต้องระวังเรื่องการรักษาความสะอาดของดวงตาเสมอ และระยะเวลาในการสวมใส่ที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีของดวงตาด้วยนะคะ