6 อันดับ สเปรย์ดับกลิ่น รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

หลัก ๆ แล้ว การเลือกสเปรย์ดับกลิ่นนั้นมีจุดสำคัญที่เราต้องตรวจสอบอยู่ทั้งหมด 4 จุด ดังต่อไปนี้

แม้ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกเรียกกันว่า "สเปรย์ดับกลิ่น" ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลัก ๆ ในการใช้งาน คือ เพื่อการดับกลิ่น แต่อันที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เราจึงควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานจึงจะดีที่สุดค่ะ

สเปรย์ดับกลิ่นสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าหรือเสื้อผ้านั้นสามารถขจัดกลิ่นและป้องกันการเกิดกลิ่นที่มาจากการสะสมของแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี เช่น กลิ่นจากเหงื่อ กลิ่นกาย หรือแม้แต่กลิ่นบุหรี่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สเปรย์ประเภทนี้มักจะมาในรูปแบบของสเปรย์ที่ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ หรือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมนั่นเองค่ะ

ฉะนั้น เราขอแนะนำให้เลือกใช้สเปรย์ดับกลิ่นประเภทนี้ หากคุณเป็นคนที่แพ้กลิ่นน้ำหอมหรือไม่ถูกกับกลิ่นฉุน ๆ ค่ะ

สเปรย์ที่มีการแต่งกลิ่น มีทั้งแบบที่กำจัดกลิ่นและยับยั้งการเกิดกลิ่นที่มีสา้หตุมาจากแบคทีเรีย จึงสามารถใช้งาได้ทั้งกับสิ่งของจำพวกผ้าหรือใช้เพื่อฉีดตามจุดต่าง ๆ ในบริเวณบ้านของคุณได้ แถมยังมีแบบที่ผสมสารเคลือบกลิ่นให้เลือกอีกด้วย ซึ่ง "สารเคลือบกลิ่น" นี้ มีหน้าที่ในการช่วยดับกลิ่นโดยการเข้าไปเคลือบที่พื้นผิวของวัสดุเพื่อไม่ให้มีกลิ่นออกมา ดังนั้น สเปรย์ดับกลิ่นประเภทนี้จึงไม่สามารถช่วยกำจัดหรือป้องกันแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นได้ค่ะ

เนื่องจากสเปรย์ประเภทนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงสามารถใช้แทนน้ำหอมในบ้าน (Room Fragrance) ได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์แบบที่แต่งกลิ่นเพียงอย่างเดียวนั้นจะไม่สามารถกำจัดกลิ่นได้ถึงต้นตอเหมือนกับประเภทที่ช่วยทั้งดับกลิ่นและแต่งกลิ่นค่ะ ฉะนั้น ในการเลือกซื้อสเปรย์ดับกลิ่นทุกครั้ง อย่าลืมนึกถึงจุดนี้เอาไว้ด้วยนะคะ

นอกจากวัตถุประสงค์หลักในการใช้งานเพื่อดับกลิ่นและแต่งกลิ่นตามที่กล่าวไว้เบื้องต้นแล้ว ยังมีสเปรย์ประเภทที่ช่วย "ดูแลเนื้อผ้า" ให้เลือกอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะดับกลิ่นและป้องกันแบคทีเรียได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตย์และลดรอยยับของเสื้อผ้าได้ด้วยค่ะ

แม้ว่าตามปกติแล้ว การรีดผ้าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดรอยยับ แต่การใช้สเปรย์ประเภทนี้ก็ช่วยลดรอยยับได้ดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกับเสื้อโค้ทหรือเสื้อสูทที่สามารถใส่ซ้ำได้แต่รีดเองได้ยาก รวมไปถึงชุดเครื่องแบบนักเรียนด้วย เพราะสเปรย์ประเภทนี้จะช่วยร่นระยะเวลาในการดูแลรักษาเสื้อผ้าเหล่านี้ได้ดีทีเดียว สำหรับใครก็ตามที่ไม่ค่อยมีเวลาจัดการกับเสื้อผ้า เราขอแนะนำสเปรย์ดับกลิ่นประเภทนี้ไปใช้งานเลยค่ะ

บ้านไหนที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะสารในสเปรย์มีโอกาสที่จะตกค้างตามข้าวของเครื่องใช้และอาจสัมผัสผิวหนังของเด็กหรือสัตว์เลี้ยงได้โดยตรงนั่นเอง ดังนั้น การใช้สเปรย์ดับกลิ่นที่ทำจากสารสกัดธรรมชาติจะช่วยให้คุณใช้งานสเปรย์ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีสเปรย์บางตัวที่ถูกระบุบนบรรจุภัณฑ์ไว้ว่าไม่เป็นอันตรายหากเผลอเข้าปากหรือโดนตา นี่จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีและเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงเลยล่ะค่ะ

ต้นตอของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แต่ละแบบนั้นไม่เหมือนกัน กลิ่นที่เกิดตามเสื้อผ้า, กลิ่นจากรองเท้า หรือกลิ่นในห้องน้ำ ก็ล้วนแล้วแต่มีปัจจัยการเกิดที่แตกต่างกัน การเลือกสเปรย์ดับกลิ่นที่ระบุวัตถุประสงค์ไว้เฉพาะตัวจะช่วยให้คุณสามารถกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสเปรย์เหล่านี้จะมีส่วนผสมเฉพาะที่ใส่มาเพื่อขจัดกลิ่นเหล่านั้นโดยตรง ดังนั้น การเลือกใช้งานสเปรย์ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งานจึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรเอาใจใส่ด้วยค่ะ

สเปรย์ดับกลิ่นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มีแบบมีกลิ่นและแบบไม่มีกลิ่น

สเปรย์แบบมีกลิ่น จะใช้งานง่ายในแง่ของการดับกลิ่น เช่น ใช้ฉีดพ่นก่อนที่แขกจะมาเยี่ยมบ้าน หรือใช้เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในห้องตอนที่เรากำลังทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว การฉีดเสปรย์ที่มีกลิ่นบางเบาก่อนนอนยังช่วยทำให้ผ่อนคลายได้ดีด้วย แต่ในขณะเลือกซื้อนั้น คุณควรตรวจสอบชนิดและความแรงของกลิ่นให้ดีก่อน เพื่อที่เวลาฉีดดับกลิ่นจะได้ไม่ทำให้กลิ่นเหม็นและกลิ่นหอมผสมกันจนทำให้สูดดมแล้วเกิดความอึดอัดหรือเวียนหัวแทนได้

สำหรับคนที่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงเป็นประจำอยู่แล้ว เราขอแนะนำว่าควรเลือก สเปรย์แบบไร้กลิ่น เพื่อไม่ให้กลิ่นหอมตีกันนั่นเองค่ะ ส่วนคนที่มีจมูกไวต่อกลิ่นหรือคนที่แพ้สารเคมี การเลือกสเปรย์แบบที่มีกลิ่นหอมหรือกลิ่นแรงเกินไปอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองทางเดินหายใจจนก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและอารมณ์ได้ ดังนั้น ควรเลือกใช้แบบไร้กลิ่นจะดีที่สุดค่ะ

จุดสำคัญอีกจุด คือ การเช็กว่าสเปรย์รุ่นนั้นมีละอองที่ละเอียดเพียงพอหรือไม่ ยิ่งมีละอองที่ละเอียดมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้สเปรย์ดับกลิ่นก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปด้วย เช่น สเปรย์ที่ระบุว่าเป็นละอองแบบหมอก (Mist) หากเราเลือกใช้สเปรย์ที่ไม่มีละอองละเอียดพอ หรือมีหัวสเปรย์ที่ฉีดออกมาเป็นแบบกระจัดกระจายแล้วล่ะก็ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการดับกลิ่นลดลงได้แล้ว ยังอาจทำให้ละอองสเปรย์ตกลงบนพื้นแล้วเราต้องมาทำความสะอาดในภายหลังกันอีกด้วยค่ะ

เมื่อดูจากประสิทธิภาพในการดับกลิ่นและความสะดวกสบายที่ได้แล้ว การเลือกหัวสเปรย์ที่ฉีดออกมาเป็นละอองละเอียดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีทีเดียว

ในกรณีที่คุณต้องใช้สเปรย์ดับกลิ่นบ่อย ๆ ควรเลือกยี่ห้อที่มีถุงสำหรับรีฟิลขายแยกด้วย เพื่อเป็นการประหยัดงบค่าใช้จ่ายและเพื่อความคุ้มค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม ถุงสำหรับรีฟิลของผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกอาจมีวางจำหน่ายอย่างจำกัดตามร้านค้า ดังนั้น เราจึงขอให้คุณตรวจสอบดูก่อนว่าคุณสามารถหาซื้อถุงสำหรับรีฟิลจากแหล่งอื่น ๆ ได้หรือไม่ เช่น จากช่องทางออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถใช้งานสเปรย์ดับกลิ่นที่คุณชื่นชอบได้อย่างยาวนานค่ะ

ในส่วนของสเปรย์แบบกระป๋องนั้น แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกกว่า แถมส่วนใหญ่ยังมีละอองที่ละเอียดกว่า แต่สเปรย์แบบนี้มักจะไม่มีถุงสำหรับรีฟิลขาย ดังนั้น ราคาจึงอาจจะแพงกว่าเมื่อเทียบกับแบบที่สามารถรีฟิลได้ค่ะ

หลังจากที่เราได้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกสเปรย์ดับกลิ่นกันไปมากมายแล้ว ทางทีมงานขอนำเสนอ 10 อันดับ สเปรย์ดับกลิ่น ที่ได้รับความนิยมมาให้ทุกคนได้นำไปเป็นตัวเลือกกันอีกด้วยค่ะ จะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย !

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับบทความในครั้งนี้ ทางทีมงานได้แนะนำวิธีการเลือกและแนะนำผลิตภัณฑ์กันไปแล้ว มีตัวไหนที่ถูกอกถูกในคุณผู้อ่านกันบ้างหรือไม่คะ? ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่นำมาจัดอันดับนี้ล้วนแล้วแต่มีการใช้งานที่ง่ายดายและยังได้รับความนิยมสูง มีความน่าเชื่อถือและมีรีวิวที่ดีทั้งนั้นเลยค่ะ คุณสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้เลยนะคะ

ส่วนในเรื่องของกลิ่นนั้น เนื่องจากความชอบของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เราจึงขอแนะนำให้อ้างอิงข้อมูลจากบทความนี้ เพื่อปรับใช้ให้ตรงกับความชอบจะดีที่สุดค่ะ ทางทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสามารถนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำกันในครั้งนี้ไปเป็นไอเดียในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจ และตรงตามความต้องการในการใช้งานของตัวเองกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ