น่าซื้อ 8 อันดับ สกินแคร์ญี่ปุ่น ที รุ่นไหนดี รีวิวเพียบ อัพเดทล่าสุดปี 2567
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากสกินแคร์ญี่ปุ่น มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง สกินแคร์ญี่ปุ่น และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา สกินแคร์ญี่ปุ่น วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ สกินแคร์ญี่ปุ่นยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!
2. [พร้อมส่ง-ขายส่ง-ส่งไว]KOSE-Sekkisei สกินแคร์ตัวดังจากประเทศญี่ปุ่น มอบความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะปราการป้องกันผิ
3. ชั้นวางสกินแคร์ ชั้นไม้วอลนัท2ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น มีหลายขนาด
4. ครีมวาโย สกินแคร์
5. สกินแคร์เกาหลี ของแท้
6. ไนค์ครีมลาเมอร์รี่สกินแคร์ของแท้100%(รับของแถมฟรี)
7. โบทาย่า เฮิร์บ นูริชชิ่ง สกิน แคร์ ครีม
8. (เขต 1 กล่อง ครีมลิเดีย สกินแคร์ Lydia Cream พ้อมส่ง
สมัยก่อนเราจะมีคำถามยอดฮิตกันว่า ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดีนะ? แน่นอนว่าสกินแคร์ญี่ปุ่นจะต้องเป็นคำตอบในลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นของดีของขึ้นชื่อจากแดนปลาดิบเลยทีเดียว โดยเฉพาะเวลาที่ได้เห็นสาวญี่ปุ่นที่มีผิวสวยสุขภาพดี ก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาบำรุงผิวพรรณของเราด้วย ปัจจุบันนี้สกินแคร์ญี่ปุ่นได้ถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นก็สามารถหาสกินแคร์แบบเดียวกันมาใช้ได้อย่างสะดวก ราคาเอื้อมถึง แถมยังมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์กันอีกด้วย
อย่างที่บอกกันไปแล้วว่าสกินแคร์ญี่ปุ่นที่วางขายนั้นมีหลายยี่ห้อให้เลือกไม่ว่าจะเป็น Hada Labo, Shiseido, DHC, SK-II เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าเลือกได้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและจุดประสงค์การใช้งานของเราแล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้สามารถดูแลผิวของเราให้สวยกระจ่างใสได้ วันนี้เราจะมาเรียนรู้ทั้งวิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้อง พร้อมทั้งไปดู 10 อันดับ สกินแคร์ญี่ปุ่น ที่เราอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จัก ซึ่งแต่ละอันดับล้วนแล้วแต่ผ่านการรวบรวมข้อมูลรีวิวรอบด้านมาอย่างดี รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
ศาสตร์แห่งการดูแลด้านความสวยความงามของญี่ปุ่นนั้นได้ผ่านการค้นคว้ามาเป็นเวลายาวนาน จึงทำให้คนญี่ปุ่นมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งถึงการดูแลผิวพรรณ ส่วนประกอบที่คนญี่ปุ่นเลือกนำมาผสมลงไปในสกินแคร์นั้นมีความเป็นธรรมชาติสูง เป็นสิ่งที่สามารถหาได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากพืชธรรมชาติหรือไขมันจากสัตว์ มีสูตรที่เรียบง่ายไม่เน้นสารเคมีรุนแรงที่จะทำร้ายผิวและไม่ค่อยมีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างจากสกินแคร์ที่มาจากทางฝั่งตะวันตกหรือเกาหลี ทำให้ใช้แล้วปลอดภัยกับผิวและร่างกายของเราในระยะยาว
และเป็นที่ทราบกันดีว่า สินค้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้นเน้นความสำคัญที่คุณภาพเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาย่อมเยาก็มีคุณภาพตรงตามที่โฆษณาเอาไว้ จึงทำให้หลายคนให้ความเชื่อถือ นอกจากนี้ สกินแคร์ของญี่ปุ่นเองยังแตกกลุ่มออกไปมากมายเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากที่สุด ทั้งหมดนี้จึงทำให้สกินแคร์ญี่ปุ่นเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในปัจจุบันนั่นเองค่ะ
แบรนด์ญี่ปุ่นนั้นได้ผลิตสกินแคร์ออกมาหลากหลายชนิด ครอบคลุมการดูแลทุกปัญหาผิวและทุกการใช้งาน ซึ่งถ้าเราศึกษาให้รอบคอบก่อนจะซื้อมาใช้ ก็จะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาผิวหน้าของเราให้ดูสวยใสได้ มาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีอะไรบ้างที่เราควรต้องรู้ก่อนจะเลือกสกินแคร์ของญี่ปุ่นมาใช้
การดูแลผิวในแบบฉบับของคนญี่ปุ่นนั้น จะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าไปจนถึงการปกป้องผิวจากแสงแดด ดังนั้นจึงได้มีการผลิตสกินแคร์ออกมาเพื่อใช้ตามจุดประสงค์ในการดูแลผิวในแต่ละขั้นตอน ดังนี้
Makeup Remover หรือใครจะเรียกว่า Cleansing ก็ไม่ผิด สกินแคร์ตัวนี้อยู่ในลำดับแรกของการดูแลผิว ทำหน้าที่ขจัดเครื่องสำอาง กันแดด ที่กันน้ำให้หลุดลอกออกไป สามารถแบ่งออกได้เป็นทั้งแบบน้ำ, น้ำมัน, น้ำนม, เจล และครีม ซึ่งถ้าคุณมีสภาพผิวหน้าแห้งก็ควรเลือกใช้แบบน้ำมัน น้ำนม หรือครีม ที่จะไม่ทำให้ผิวหน้าของคุณแห้งตึงเกินไปหลังใช้ ในขณะที่คนมีสภาพผิวผสมหรือผิวมันควรเลือกใช้แบบน้ำหรือเจล ที่จะไม่ทิ้งความมันเอาไว้อุดตันรูขุมขนได้ในภายหลัง
นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นยังได้ผลิต Makeup Remover ในรูปแบบแผ่นออกมาอีกมากมายหลายแบรนด์ ซึ่งเหมาะสำหรับพกพาไปใช้นอกสถานที่เป็นอย่างยิ่งค่ะ
หลังจากที่เช็ดคราบเครื่องสำอางหรือกันแดดออกแล้ว ก็ถึงเวลาทำความสะอาดใบหน้าด้วย Cleanser ที่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้ล้ำลึกถึงระดับรูขุมขน รวมทั้งล้างทำความสะอาด Makeup Remover ออกไปด้วย สกินแคร์ชนิดนี้โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของสบู่ก้อน โฟมและเจล แต่ปัจจุบันที่ญี่ปุ่นได้มีการคิดค้น Cleanser ชนิดที่เป็นแบบผงขึ้นมาเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น Cleanser ที่ดีนั้นควรจะทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกจากหน้าได้อย่างหมดจด แต่ต้องไม่ทำให้ผิวแห้งตึงมากเกินไปหลังการใช้ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งขาดน้ำตามมาในภายหลังได้
เมื่อล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็มาถึงการปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุลด้วยสิ่งที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่าน้ำตบนั่นเอง แต่ถ้าจะให้เป็นไปตามสากลหน่อยก็จะเรียกว่า Toner หรือ Lotion ซึ่งมีลักษณะเหลวและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จุดประสงค์หลักของสกินแคร์ตัวนี้ คือ เติมความชุ่มชื้นและปรับค่า pH ของผิวให้พอดี ในขณะที่น้ำตบบางยี่ห้อจะมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นปรับผิวให้กระจ่างใส, ควบคุมความมันส่วนเกิน, ต่อต้านริ้วรอย หรือการยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อควรดูคำอธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ให้ดี เพื่อจะได้เลือกสกินแคร์ให้เข้ากับปัญหาผิวของคุณได้ดีที่สุดค่ะ
สกินแคร์ประเภทนี้จะมีความเข้มข้นของ Active Ingredient ในปริมาณที่มากจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาผิวที่คุณต้องการจัดการเป็นพิเศษได้อย่างดีเยี่ยม แต่ Essence และ Serum จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเนื้อสัมผัส ซึ่ง Essence มักจะมีเนื้อสัมผัสบางเบามากกว่า Serum ในขณะที่ Serum จะมีเนื้อสัมผัสที่หนาแต่สามารถให้การบำรุงได้ดีกว่า Essence
ในขั้นตอนการดูแลผิว เราจะตบท้ายด้วยการทา Moisturizer เพื่อช่วยเคลือบรักษาระดับความชุ่มชื้นในผิวให้คงอยู่ได้ยาวนาน ปกป้องผิวจากความแห้งกร้านได้เป็นอย่างดี จัดว่าเป็นขั้นตอนที่วงการความงามของญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะผิวจะมีสุขภาพดีหรือไม่จะขึ้นอยู่กับระดับความสมดุลของความชุ่มชื้นในผิวด้วยเช่นกัน สกินแคร์ในกลุ่มนี้จะมีทั้งเนื้อสัมผัสที่เป็นแบบครีมเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือคนที่ต้องการ Moisturizer ไว้ใช้ก่อนนอน เนื้อสัมผัสแบบน้ำนมหรือเจล เหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวมันไปจนถึงผิวผสมหรือคนที่ต้องการการบำรุงก่อนการแต่งหน้า
มาถึงสกินแคร์ที่คุณต้องใช้ทุกครั้งก่อนจะออกจากบ้านหรือในระหว่างวัน นั่นก็คือ Sunscreen หรือกันแดดนั่นเอง เพราะรังสี UV ในแสงแดดนั้นจัดว่าเป็นศัตรูตัวร้ายที่จะคอยทำลายผิวของคุณให้เกิดการเสื่อมสภาพลงก่อนวัยอันควร ทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง
กันแดดนั้นมีให้เลือกใช้ตั้งแต่เนื้อสัมผัสแบบครีม, เจล, โลชั่นและน้ำนม อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่แตกต่างกันออกไป โดยค่าประสิทธิภาพในการกันแดดจะระบุในรูปของ SPF และ PA+ ยิ่งค่าเหล่านี้สูงก็จะยิ่งปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ โดยค่ากันแดดที่เหมาะสมคือ SPF 15-30 PA+ หรือ PA++ สำหรับชีวิตประจำวัน และ SPF 50+ PA +++ สำหรับกิจกรรมกลางแดดที่ร้อนจัด
สกินแคร์ญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับส่วนผสมหลักเป็นอย่างมาก โดยส่วนผสมหลักจะทำหน้าที่สำคัญในการกำหนดคุณสมบัติในการดูแลและบำรุงผิว ซึ่งวงการความงามของญี่ปุ่นมักจะเน้นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ อีกทั้งยังเน้นความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวอีกด้วย
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในผิว หน้าที่หลัก คือ ช่วยยึดชั้นผิวเข้าด้วยกัน เสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิว จึงทำให้ผิวหน้าของเรามีความนุ่มฟูและสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ยาวนาน ผิวของคุณจึงห่างไกลจากอาการแห้งกร้านขาดน้ำ ซึ่งไฮยาลูรอนนั้นสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดตามขนาดโมเลกุล โดยยิ่งมีขนาดเล็กก็จะยิ่งซึมลงไปบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น
สารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในวงการสกินแคร์ของญี่ปุ่นเป็นลำดับต้น ๆ ก็คือ สารสกัดจากลูกเดือย เพราะมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อผิวมากมาย ได้แก่ ช่วยปลอบประโลมผิวจากการอักเสบ จึงช่วยให้สิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของเรามีขนาดเล็กลง อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกินของผิว เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนังได้ดีขึ้น จึงกระตุ้นให้ผิวเกิดการฟื้นฟูได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เพียงพอกับความต้องการของผิว ผิวของคุณจึงมีความแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
อย่างที่ได้บอกไปว่าสกินแคร์ของญี่ปุ่นมักจะนำส่วนผสมจากธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบ เช่นเดียวกับสารสกัดจากยีสต์หมัก ที่คนญี่ปุ่นค้นพบจากการบ่มสาเกอันเป็นเครื่องดื่มสามัญประจำแดนปลาดิบ ว่ามีองค์ประกอบหลายชนิดในสารสกัดที่สามารถเป็นอาหารหล่อเลี้ยงผิวได้เป็นอย่างดี ช่วยกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวมากขึ้น ผิวของคุณจึงมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น รูขุมขนดูกระชับและมีขนาดเล็กลง ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย จึงเป็นส่วนผสมที่เรามักจะพบได้ตามสกินแคร์ที่เน้นในเรื่องของการดูแลริ้วรอยและผิวเสื่อมสภาพตามช่วงอายุ
ส่วนผสมตัวนี้จัดได้ว่าเป็นดาวเด่นสำหรับคนที่อยากมีผิวสวยกระจ่างใส เพราะวิตามินซีนั้นมีคุณสมบัติที่จะช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิวหนังของเราลง จึงทำให้จุดด่างดำและความหมองคล้ำดูจางลงไป ปรับให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสมากขึ้น อีกทั้งยังมีผลกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวของคุณมีความนุ่มฟูมากขึ้น เป็นส่วนผสมที่สามารถพบได้ในสกินแคร์กลุ่มที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและกลุ่มที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย
หลังจากที่ทราบกันไปแล้วว่าส่วนผสมที่คุณควรจะมองหาในสกินแคร์นั้นมีอะไรบ้าง ต่อไปก็มาถึงส่วนประกอบที่คุณต้องหลีกเลี่ยงในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วยเช่นกันค่ะ เพราะส่วนผสมเหล่านี้มักจะสร้างความระคายเคืองให้กับผิวโดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ทำให้เกิดอาการคันและอักเสบตามมาได้ เช่น น้ำหอม, สีสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ต่าง ๆ
นอกเหนือจากส่วนผสมเหล่านี้ ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อาจจะมีเฉพาะคุณเท่านั้นที่มีอาการแพ้ เนื่องจากอาการระคายเคืองจากส่วนผสมต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่ละคนเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้เวลาซื้อสกินแคร์มาใช้ ควรจะเลือกสกินแคร์ที่มีขนาดทดลองมาลองใช้ดูก่อนว่าแพ้หรือไม่ โดยให้ทดลองทาสกินแคร์นั้นลงบริเวณหลังใบหูดูก่อน ถ้าไม่มีอาการคันหรือแดงก็หมายความว่าอาจจะปลอดภัยกับผิวหน้าของคุณด้วยเช่นกันค่ะ
หลังจากที่เราได้ทราบถึงวิธีการเลือกสกินแคร์ญี่ปุ่นกันโดยละเอียดแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 อันดับ สกินแคร์ญี่ปุ่นที่เราแนะนำให้คุณควรจะเก็บมาพิจารณาเลือกซื้อจะมียี่ห้อไหนกันบ้าง รับรองได้เลยว่าสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวกตามเว็บออนไลน์ทั่วไปโดยที่คุณไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นหรือฝากใครซื้อมาจากที่นั่นกันเลย
Cleansing Oil ที่ติดอันดับหนึ่งมายาวนาน จุดเด่นที่หลายคนหลงรักคือความสามารถในการลบคราบเครื่องสำอางหรือกันแดดบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นชนิดกันน้ำติดทนแค่ไหน น้ำมันตัวนี้ก็ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังสามารถละลายสิวเสี้ยนหรือสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนให้ออกมาได้ด้วยเช่นกัน ส่วนผสมหลักที่ใช้ก็เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ซึ่งเสี่ยงต่อการอุดตันน้อยกว่าน้ำมันแร่ทั่วไป
ผงล้างหน้ากำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง โดยไฮไลท์ที่ทำให้ผงล้างหน้ายี่ห้อนี้ได้รับความนิยมก็คือ ส่วนผสมของเอนไซม์ในตัวสกินแคร์ที่สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน ชะล้างทั้งสิ่งสกปรก สิวเสี้ยน หรือสิวอุดตันต่าง ๆ ออกมาได้อย่างดี เมื่อล้างหน้าแล้วผิวไม่มีความแห้งตึงยังมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่ หลายคนถูกใจที่ Packaging มีขนาดเล็ก ใช้งานได้ง่ายและสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก
สำหรับใครที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย ควรต้องทำความรู้จักกับครีมบำรุงตัวนี้ เพราะทางแบรนด์ใช้สูตรที่ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ และใช้ส่วนผสมที่ทั้งอ่อนโยนและเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นผิวอย่างเซราไมด์สังเคราะห์ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและนุ่มชุ่มชื้น พร้อมยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลง ผู้ใช้นั้นประทับใจที่เนื้อครีมมีความเข้มข้นแต่ซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเอาไว้บนใบหน้า
Essence วิตามินซีตัวฮิตจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในบรรดาสาวไทยด้วยเช่นกัน เพราะมีปริมาณวิตามินซีบริสุทธิ์เข้มข้น ช่วยปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้น ผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นผลในเรื่องจุดด่างดำที่ดูจางลง และชื่นชอบที่แม้จะมีลักษณะเป็นน้ำมันเหลว แต่มีเนื้อบางเบาสามารถซึมลงสู่ผิวได้เร็ว พร้อมยังเคลือบบำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อีกด้วย แต่คนผิวมันอาจจะต้องหลีกเลี่ยงเพราะอาจจะอุดตันผิวได้
ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก Hada Labo เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตน้ำตบไฮยาลูรอนที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้อย่างดี ซึ่งโลชั่นขวดนี้ที่กำลังเป็นที่นิยมกันมีความพิเศษของส่วนผสมจากลูกเดือยเพิ่มเติมขึ้นมา ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินและบรรเทาอาการอักเสบของผิวจากสิวต่าง ๆ ได้ ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น ดังนั้นใครที่มีสภาพผิวมันแต่เผชิญกับปัญหาผิวขาดน้ำควรจะลองหาโลชั่นขวดนี้มาใช้ดูนะคะ
โฟมล้างหน้าตัวนี้เรียกได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยมถึงขั้นที่ว่าไปญี่ปุ่นแล้วต้องซื้อกลับมาให้ได้กันเลย จุดเด่นที่ทำให้ทุกคนต้องซื้อมาใช้ซ้ำอยู่ที่ฟองเนียนนุ่มของโฟมที่สามารถดึงเอาสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน โดยที่ให้มือของเราสัมผัสกับผิวหน้าน้อยที่สุดเพื่อลดการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้น หลายคนยังรักที่เมื่อใช้แล้วผิวหน้ารู้สึกสะอาด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่แห้งตึงจนเกินไป ที่สำคัญยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วยค่ะ
มาถึงเจลบำรุงผิวที่หลายคนต่างก็ยกนิ้วให้ว่ามีคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายจากแบรนด์ Naturie ที่จัดเต็มมาด้วย Hatomugi และสารสกัดจากข้าวบาร์เลย์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปลอบประโลมผิวจากอาการอักเสบของสิวได้อย่างดี นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เลือดบริเวณผิวหนังไหลเวียนได้ดีขึ้น เนื้อสัมผัสก็เป็นอีกจุดสำคัญที่หลายคนเทคะแนนให้ เพราะมีความบางเบา ซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย ใช้แล้วสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
กันแดดสีทองที่หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะครั้งหนึ่งก็เป็นไอเทมยอดฮิตที่ต้องหิ้วกลับมาจากญี่ปุ่น โดยวันนี้ทางแบรนด์ได้ปรับสูตรใหม่ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าที่เคย ด้วยการไม่ใช้ส่วนผสมของแอลกอฮอล์, น้ำมันแร่ และพาราเบน แต่ยังคงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดเอาไว้เหมือนรุ่นสีทองตัวดังไม่มีผิด ซึ่งก็ยังได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้ได้เป็นอย่างดีว่ามีความบางเบาแต่ช่วยกันแดดได้จริง
เทรนด์การฟื้นฟูผิวจากมลภาวะกำลังมาแรงในปัจจุบัน ทาง Shiseido ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์เซรั่มที่มีทั้งเห็ดหลินจือและสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดมาบำรุงและซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายให้กลับมาแข็งแรง มีสุขภาพดี และดูกระจ่างใสมากขึ้น กลุ่มคนที่มีปัญหาผิวอ่อนแอนั้นเห็นผลชัดเจนว่าผิวกลับมาดูนุ่มเนียนขึ้น หลายคนยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าตัวเซรั่มมีสารบำรุงเข้มข้นแต่มีเนื้อบางเบา ซึมลงผิวได้ง่ายจึงทำให้ใช้งานได้สะดวก
หากพูดถึงสกินแคร์ญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมี Essence ของ SK-II ติดอันดับแน่นอน ด้วยส่วนผสมของ Pitera ที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ในกรรมวิธีเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ได้ออกมาเป็นสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมาย ผู้ใช้จำนวนมากเห็นผลหลังการใช้ในเรื่องของผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น รูขุมขนมีขนาดเล็กลง อีกทั้งยังมีความเรียบเนียนนุ่มมือมากขึ้นกว่าที่เคย หลายคนยังชื่นชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมลงบำรุงได้อย่างรวดเร็ว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลสกินแคร์ญี่ปุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลือกซื้อว่ามีอะไรที่คุณควรต้องพิจารณาและคำนึงถึงบ้าง หรือ 10 อันดับ สกินแคร์ญี่ปุ่น ที่หลายคนต่างก็ลงความเห็นแนะนำว่าคุณควรจะลองหาซื้อมาใช้ดูสักครั้ง เราก็หวังว่าทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อสกินแคร์ญี่ปุ่นได้ง่ายและถูกใจคุณมากขึ้นกว่าเดิมนะคะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเชื่อว่าหลายคนจะต้องซื้อสกินแคร์ญี่ปุ่นจากการฝากหิ้ว พรีออเดอร์จากแม่ค้าทั้งหลาย แต่ในปัจจุบันมีแบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางญี่ปุ่นหลายแบรนด์ที่ถูกนำเข้าโดยถูกกฎหมายในประเทศไทยกันแล้ว ซึ่งผ่านการรับรองจาก อย. ว่าปลอดภัยสามารถใช้ได้กับผิวของคนไทย ดังนั้น หากคุณจะซื้อจากร้านค้าออนไลน์ เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อสกินแคร์จากแบรนด์ Official โดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความเสี่ยงจากสินค้าปลอมแปลงหรือสินค้าหมดอายุที่อาจจะทำร้ายผิวของเราในภายหลังได้อีกด้วย