8 อันดับ สเปรย์ฆ่าเชื้อ รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

ประสิทธิภาพของสเปรย์ฆ่าเชื้อเป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้จากศัพท์ทางการตลาดที่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อมักใช้กัน บางคำเป็นศัพท์ทางวิชาการที่ยืมมาใช้ในการเสนอขาย เช่น คำว่า แอนติแบคทีเรีย (Antibacterial) ที่หมายถึง การกำจัดเชื้อ แบคทีเรียให้มีปริมาณลดลง โดยมีนัยยะของการทำให้สะอาดขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะที่คำว่า การสเตอริไลซ์ (Sterilization) หรือการฆ่าเชื้อ (Disinfection) นั้น จะหมายถึง การฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส หากพิจารณาในแง่ของการลดปริมาณเชื้อแล้ว การสเตอริไลซ์จะสามารถลดปริมาณเชื้อได้มากที่สุด รองลงมา คือ การฆ่าเชื้อ ตามด้วยแอนติแบคทีเรีย

เนื่องจากผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจะมีความหมายถึงการฆ่าเชื้อแบบ Disinfection ดังนั้น เมื่อมองแว้บแรกจากลำดับประสิทธิภาพข้างต้นแล้ว อาจทำให้คุณผู้อ่านสงสัยว่า สเปรย์ฆ่าเชื้อมีประสิทธิภาพแค่ระดับกลางเท่านั้นเองหรือ? แต่อันที่จริงแล้ว ผู้ผลิตต้องการที่จะเลี่ยงการใช้คำว่าสเตอริไลซ์เป็นคำอวดอ้างสรรพคุณ เนื่องจากเป็นคำศัพท์ที่สงวนไว้สำหรับยาหรือเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเฉพาะในบางประเทศอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น จะอนุญาตให้ใช้คำว่าสเตอริไลซ์ได้กับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และยาแบบ Quasi Drug ซึ่งเป็นยาที่ให้ผลต่อร่างกายน้อยสำหรับใช้รักษาแบบเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้คำนี้กับผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อย่างผงซักฟอก สบู่ หรือสเปรย์ ฯลฯ

สำหรับสเปรย์ฆ่าเชื้อที่จะพูดถึงในบทความนี้ มีข้อได้เปรียบตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์ใช้งานในบ้านได้สะดวก และสามารถลดจำนวนเชื้อทีเรียได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการเลือกใช้ส่วมผสมของสารฆ่าเชื้อที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อแบคทีเรียบางชนิดในครัวเรือนโดยเฉพาะ ช่วยปรับประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาบทความนี้ แล้วเลือกใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับการใช้งานในครัวเรือนของคุณได้เลยครับ

เรามาดูวิธีการเลือกสเปรย์ฆ่าเชื้อด้วยการทำรู้จักกับสเปรย์ฆ่าเชื้อชนิดต่าง ๆ ก่อน ซึ่งก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน แถมมีฤทธิ์กัดกร่อนต่อจุดสัมผัสแตกต่างกันไปด้วย ลองอ่านวิธีการนี้โดยละเอียดแล้วเลือกอันที่เหมาะสำหรับคุณดูนะครับ

สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคมีหลายประเภท ขอแนะนำให้เลือกโดยดูจากส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการใช้งานของเราครับ

สเปรย์ฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั้นจะปลอดภัยสำหรับการทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ในครัว เพราะทันทีที่เราฉีดแล้วเช็ดทำความสะอาด แอลกอฮอล์ก็จะเริ่มระเหยออกไปจนหมด เราจึงไม่ต้องมากังวลเรื่องสารตกค้างหลังการทำความสะอาดเหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมชนิดอื่น ๆ ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่แคบหรือมุมอับในครัวที่มักเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย เราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์นี้ฉีดเข้าไปเพื่อฆ่าเชื้อได้เลย โดยไม่ต้องลำบากมาเช็ดออกทีหลัง

โดยทั่วไป ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อจะอยู่ที่ประมาณ 30% - 40% ซึ่งเพียงพอสำหรับป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียแล้ว แต่ หากต้องการฆ่าเชื้อไวรัสด้วย จะต้องเพิ่มความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ให้มากกว่าหรือเท่ากับ 70% ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ

อย่างไรก็ตาม สำหรับไวรัสบางชนิด เช่น โนโรไวรัส ซึ่งมีความทนทานสูง แม้เราจะใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อที่มีแอลกอฮอล์ความเข้มสูงแล้ว ก็อาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะหยุดเชื้อไวรัสประเภทนี้ได้ ภายหลังการฉีดพ่นครั้งแรก เราแนะนำให้รอประมาณ 15 วินาที แล้วจึงฉีดพ่นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อที่ใช้ไฮโปคลอไรท์ (Hypochlorite)

นอกจากนี้ ควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ในสัดส่วนที่สูง เพราะอาจลุกติดไฟได้ง่ายและควรเลือกสเปรย์ฆ่าเชื้อที่ใช้แอลกอฮอล์ชนิดที่ตรงตามการใช้งานของคุณ เนื่องจากมีแอลกอฮอล์หลายชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่ใช้ล้างมือได้ หรือชนิดที่สามารถใช้กับอาหารได้โดยตรง รวมถึงชนิดที่อ่อนโยนต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จึงควรนำไปใช้ให้สอดคล้องกัประเภทของแอลกอฮอล์ตามที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ด้วยนะครับ

สำหรับการกำจัดทั้งเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) และโรต้าไวรัส (Rotavirus) ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความทนทานสูงนั้น สเปรย์ฆ่าเชื้อแบบที่มี กรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous Acid ) และโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ( Sodium Hypochlorite ) จะมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฉพาะโซเดียมไฮโปคลอไรท์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง มักถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในสารฟอกขาวกลุ่มคลอรีน บลีช (Chlorine Bleach) ที่ใช้ในการซักผ้าขาวโดยเฉพาะ จึงต้องมีการเจือจางให้ดีก่อนใช้ทำความสะอาด เนื่องจากอาจทำให้พื้นผิวหรือจุดสัมผัสถูกกัดจนเปลี่ยนสีได้

ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อมากมายที่ฉีดแล้วไม่ต้องเช็ด แถมก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่าด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นได้ผ่านกระบวนการบำบัดโดยไฟฟ้าและปรับความเข้มข้นให้เหมาะสมแล้ว สารละลายกรดไฮโปคลอรัส เป็นสารละลายที่ได้จากการทำอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) โซเดียมไฮโปคลอไรท์ และเป็นที่รู้กันดีว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

ดังนั้น สเปรย์ที่ใช้สารละลายกรดไฮโปคลอรัส จะเหมาะสำหรับ สถานที่ในครัวรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ของเด็กทารก สารละลายกรดไฮโปคลอรัสมีความสามารถในการฆ่าเชื้อที่สูงและปลอดภัยต่อการใช้งาน แต่เนื่องจากเป็นส่วนผสมของสารฟอกขาวคลอรีนซึ่งมีสภาพเป็นกรดอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานร่วมกับสารฟอกขาวที่เป็นกรดเหมือนกันอีก

หากต้องการสเปรย์ฆ่าเชื้อที่ใช้สำหรับขวดนมและของเล่นต่าง ๆ ของเด็กทารก รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง ควรใช้สเปรย์ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลกระทบกับร่างกายของพวกเค้า ซึ่งสเปรย์ฆ่าเชื้อจากสารละลายกรดไฮโปคลอรัสก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ แต่จะช่วยให้ ปลอดภัยมากขึ้น ถ้าใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%

สเปรย์ฆ่าเชื้อแบบที่ใช้สารสกัดจากใบหรือเมล็ดพืช จะเหมาะสมและปลอดภัยกว่าสำหรับการใช้งานในช่องปาก บางคนก็ใช้สเปรย์เหล่านี้ฉีดใส่อาหารได้โดยตรง และ สำหรับผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับใช้กับอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เราก็คงไม่อยากให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างแน่นอน ฉะนั้น ขอแนะนำว่าควรเลือกซื้อเป็นสเปรย์ที่มีคุณสมบัติกำจัดกลิ่นด้วยก็จะยิ่งดีครับ

ห้องน้ำเป็นสถานที่เพาะเชื้ออย่างดีและเป็นพื้นที่ที่เราต้องสัมผัสโดยตรงหลายจุด ดังนั้น เพื่อรักษาความสะอาดในห้องน้ำอย่างเหมาะสมแล้ว ขอแนะนำให้ใช้สเปรย์ที่สามารถคงประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้แบบยาวนานจะดีที่สุด

การใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อชนิดโฟมจะช่วยในการล้างห้องน้ำให้สะอาดหมดจด แล้วยังสามารถกำจัดแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย เท่ากับว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย

ฟูกนอน เสื้อผ้า และรองเท้า ฯลฯ เป็นของที่มักมีกลิ่นเหม็นอับได้ง่าย เนื่องมาจากความชื้นและเหงื่อของเราทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย โดยเฉพาะฟูกนอนและรองเท้าซึ่งเป็นของที่ยากต่อการซักทำความสะอาดอยู่แล้ว การใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อจึงเป็นวิธีที่สะดวกมากกว่า เรา ขอแนะนำให้ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อประเภทที่สามารถควบคุมกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับฟูกนอน เสื้อผ้าและรองเท้า

นอกจากนี้ สำหรับชุดสูทและเสื้อโค้ท ซึ่งเป็นสิ่งที่มักไม่ค่อยได้ส่งซักเป็นประจำทุกวัน ระหว่างที่เรากลับจากงานต่าง ๆ เราสามารถฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อล่วงหน้าไว้เลย เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียรวมถึงป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ สเปรย์ประเภทนี้มีทั้งแบบมีกลิ่นและปราศจากกลิ่น ใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้กับรองเท้าแตะที่ใส่ในบ้าน หมอนอิง หรือแม้กระทั่งพรมก็ยังได้

การวางสเปรย์ฆ่าเชื้อไว้ในห้องในจุดที่เราจะหยิบใช้งานได้สะดวกนั้นจะช่วยให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเราเลือกใช้ขวดสเปรย์ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋เข้ากันได้กับบรรยากาศในห้องของเราแล้ว จะยิ่งเป็นกุศโลบายให้คุณอยากหยิบมาใช้ได้บ่อยครั้งขึ้น ดังนั้น อย่าลืมที่จะเลือกขวดสเปรย์สวย ๆ สักขวดที่เข้าได้กับห้องของคุณกันนะครับ

การฉีดพ่นในแต่ละครั้งเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ความสะดวกในการหยิบใช้งานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย จึงควรวางสเปรย์ไว้ในจุดที่มองเห็นได้ง่ายและควรลือกขวดที่มีดีไซน์สวยงาม เพื่อบรรยากาศที่ดีในห้องของเรา

แม้ในระหว่างเดินทาง เราก็มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียได้ ไม่ใช่แค่ในบ้านของคุณเท่านั้น ขอแนะนำให้พกสเปรย์ฆ่าเชื้อแบบขนาดพกพาติดตัวเอาไว้ด้วยในขณะเดินทาง แล้วอย่าลืมเก็บไว้ในที่ที่หยิบออกมาใช้งานได้ง่ายด้วยนะครับ

ปัจจุบัน มีสเปรย์ฆ่าเชื้อแบบพกพาให้เลือกมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น สำหรับทำความสะอาดมือ, แบบอ่อนโยนสำหรับ เด็ก, แบบใช้ในห้องน้ำ, ใช้กับลูกบิดประตู, หรือสำหรับใช้กับเสื้อผ้า เป็นต้น สิ่งสำคัญก็คือ ต้องเลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานของคุณด้วย

ต่อไปจะเป็นการแนะนำสเปรย์ฆ่าเชื้อที่คัดสรรมาแล้วว่าปลอดภัยและสะดวกสบายต่อร่างกายคน ซึ่งการจัดอันดับนี้เป็นอัปเดตล่าสุดของปี 2020 โดยพิจารณาจากอันดับขายดีของร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ รวมไปถึงคุณสมบัติของสเปรย์ที่เหมาะสมตามวิธีการเลือกซื้อที่เราได้กล่าวถึงมาก่อนหน้านี้ด้วยครับ

เมื่ออ่านจนถึงบทส่งท้ายนี้ คุณผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่า ผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อมีอยู่มากมายหลายแบบให้เลือกซื้อจริง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมานี้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติมักจะได้รับการตอบรัับที่ดีกว่า เมื่อพิจารณาจากความอ่อนโยนและความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารเคมีก็มีจุดเด่นตรงที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าในขจัดคราบและกำจัดเชื้อโรค จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดในทุก ๆ แง่มุมของการใช้งาน สุดท้ายนี้ ขอให้คุณผู้อ่านเลือกได้สินค้าที่ถูกใจกันนะครับ