8 อันดับ หน้ากากกันฝุ่น ต้องได้ ต้องโดน บอกเลย! อัพเดทล่าสุดปี 2567
ชวนคุณมาช้อปออนไลน์กับสินค้าคุณภาพดี จากหลากหลายแบรนด์ดัง ช๊อปออนไลน์กับร้านแนะนำของเรา ช้อปรับส่วนลดมากมาย มีคูปอง การชำระเงินที่ปลอดภัย ส่งด่วน มีโปรจัดส่งฟรี
สินค้ามาใหม่ ราคาคุ้มค่า เราขอแนะนำ หน้ากากกันฝุ่น สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง หน้ากากกันฝุ่น ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา
คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"หน้ากากกันฝุ่น"นั้นโดยมีทั้ง หน้ากากกันฝุ่น แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือหน้ากากกันฝุ่น ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาหน้ากากกันฝุ่นดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ หน้ากากกันฝุ่นคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้
คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"หน้ากากกันฝุ่น"นั้นโดยมีทั้ง หน้ากากกันฝุ่น แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือหน้ากากกันฝุ่น ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาหน้ากากกันฝุ่นดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ หน้ากากกันฝุ่นคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้
ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 38.31 บาท
คะแนน :
2. WARRIX หน้ากากผ้ากันฝุ่น PM2.5 Warrix Smart Fabric Mask WS-203MKACL02
ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 75.00 บาท
คะแนน :
3. หน้ากากพลาสติกPe/หน้ากากกันฝุ่น
ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 19.80 บาท
คะแนน :
4. หน้ากากมอเตอร์ไซค์ จักรยาน หน้ากากจักรยาน หน้ากากกันฝุ่นกันลม กันฝุ่นและกันแดด หน้ากากผ้าคลุมหน้าปั่นจักรยาน ฟรีไซส์ SP01
ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 18.66 บาท
คะแนน :
5. หน้ากากป้องกันฝุ่น 100 ชิ้น ผ้ากันฝุ่น PM2.5 กันแดด กันลมผ้าปิดปาก ผ้ากันฝุ่น
ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 249.00 บาท
คะแนน :
6. หน้ากากกันลม กันแดด กันกระแทก กันฝุ่น แว่น+หน้ากาก สามารถปรับสายรัดได้ ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับการใช้กลางแจ้ง
ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 63.48 บาท
คะแนน :
7. (Set 3ชิ้น)หน้ากากผ้ามัสลิน หน้ากากสีดํา หน้ากากกันฝุ่น หน้ากากไวรัส หน้ากากมีช่องใส่แผ่นกรอง
ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 145.00 บาท
คะแนน :
8. GQMax Mask หน้ากากผ้าสะท้อนน้ําและกันฝุ่น PM2.5 สีดํา
ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 290.00 บาท
คะแนน :
เพราะอากาศเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของเราทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพอากาศจึงเป็นหัวข้อสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษชี้ให้เห็นว่าฝุ่นขนาดเล็กที่แฝงมากับอากาศรอบตัวเราในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในที่สาธารณะหรือในที่ทำงาน นั้นมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจรวมไปถึงก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพมากเกินกว่าที่เราคาดคิด
แต่ด้วยในยุคที่เทคโนโลยีมีความล้ำสมัย ทำให้มีการวิวัฒนาการหน้ากากที่เราคุ้นเคยไปเป็นหน้ากากกรองฝุ่นที่มีคุณสมบัติเพื่อจัดการกับปัญหามลภาวะโดยเฉพาะ และในวันนี้ทีมงานจึงได้คัดสรรหน้ากากกรองฝุ่นยอดนิยมมาให้ผู้อ่านได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยมาจากผู้ผลิตหลายรายไม่ว่าจะเป็น 3M , YAMADA , RespoKare , PangoCare ฯลฯ ที่นอกจากจะได้รับการรองรับมาตรฐานในกรองฝุ่นแล้ว ยังมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และมีเทคนิคที่น่าสนใจแฝงอยู่ด้วย
แต่ด้วยในยุคที่เทคโนโลยีมีความล้ำสมัย ทำให้มีการวิวัฒนาการหน้ากากที่เราคุ้นเคยไปเป็นหน้ากากกรองฝุ่นที่มีคุณสมบัติเพื่อจัดการกับปัญหามลภาวะโดยเฉพาะ และในวันนี้ทีมงานจึงได้คัดสรรหน้ากากกรองฝุ่นยอดนิยมมาให้ผู้อ่านได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยมาจากผู้ผลิตหลายรายไม่ว่าจะเป็น 3M , YAMADA , RespoKare , PangoCare ฯลฯ ที่นอกจากจะได้รับการรองรับมาตรฐานในกรองฝุ่นแล้ว ยังมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และมีเทคนิคที่น่าสนใจแฝงอยู่ด้วย
สำหรับการเลือกหน้ากากกันฝุ่นนั้นถือเป็นหัวข้อใหญ่ที่มีความสำคัญเพราะเกี่ยวกับสุขภาพของเราโดยตรง ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อทำความเข้าใจคุณสมบัติต่าง ๆ เสียก่อนเพื่อให้เราได้ประโยชน์และช่วยลดอันตรายจากมลภาวะให้ได้มากที่สุด
หน้ากากกันฝุ่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปัจจุบันมีมาตรฐานการรองรับประสิทธิภาพจากหลากหลายประเทศ เช่น มาตรฐานอเมริกา (NIOSH Standard หรือ NIOSH 42CFR84) , มาตรฐานยุโรป (European Standard หรือ EN 149) , มาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ (Australia/New Zealand Standard หรือ AS/NZS 1761) และมาตรฐานญี่ปุ่น (JICOSH) โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
สัญลักษณ์แรกที่เราจะพบเห็นได้คือประเภท R และ D โดยประเภท R คือหน้ากากที่สามารถถอดเปลี่ยนไส้กรองได้ ซึ่งมีลักษณะตามภาพด้านบน แน่นอนว่าเหมาะสำหรับใช้ในโรงงาน ไซต์งานก่อสร้าง หรือในพื้นที่ปิดที่มีการระบายอากาศต่ำและต้องทำกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ต่อมาคือประเภท D ซึ่งเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง มีประสิทธิภาพในการกรองราว ๆ 95% มีขนาดกะทัดรัดอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีและเป็นประเภทที่คนทั่วไปนิยมใช้ (ในมาตรฐานของ NIOSH เป็นชนิด N,R,P และมาตรฐานยุโรป EN เป็นชนิด P1 , P2 , P3 ) อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ประเภทนี้ยังมีรูปแบบแยกย่อยให้เราได้เปรียบเทียบเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อให้ตรงกับความต้องการ ซึ่งจะอยู่ในหัวข้อถัดไป
คุณสมบัติในการกรองฝุ่นถือเป็นอีกปัจจัยย่อยสำคัญที่เราจำเป็นต้องพิจารณาตามสถานการณ์และสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน เนื่องจากหน้ากากกันฝุ่นมีการแบ่งประเภทโดยอาศัยการกรองอนุภาคต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่ง “S” ( N-Series ในมาตรฐานของ NIOSH ) คือหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นแข็งทั่วไปไม่ปนเปื้อนน้ำมัน เช่น PM2.5 ฝุ่นควัน ฝุ่นละออง ฝุ่นไม้ ฯลฯ
ส่วนประเภท “L” ( R-Series , P-Series ในมาตรฐานของ NIOSH ) คือหน้ากากที่เพิ่มขีดความสามารถในการกรองละอองของเหลวเข้าไป เช่น การระเหยของสารอินทรีย์ ละอองน้ำ ไอโลหะหรือละอองน้ำมัน เป็นต้น
นอกจากนี้ในบางรุ่นอาจมีการอ้างอิงมาตรฐานยุโรป ( EU EN 149) ซึ่งแบ่งคุณสมบัติในการกรองฝุ่นออกเป็น 3 ประเภทคือ FFP1 ป้องกันมลพิษ ฝุ่นควันที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ , FFP2 ป้องกันมลพิษที่เป็นอันตรายทั้งของแข็งและของเหลว , FFP3 ป้องกันมลพิษซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพ รวมไปถึงสารก่อมะเร็งและกัมมันตภาพรังสี
ประสิทธิภาพหรือเปอร์เซ็นต์การกรองนับเป็นหัวข้อที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 หมวดคือ หมวด 1 กรองฝุ่นได้ 80% หมวด 2 กรองฝุ่นได้ 95% และหมวด 3 กรองฝุ่นได้ 99% แต่โดยทั่วไปที่แนะนำควรเป็นแบบที่กรองได้อย่างน้อย 95% ขึ้นไป เช่น N95 , P2 หรือ FFP2 เป็นอย่างต่ำ เพราะแม้ว่าในหลายรุ่นจะบอกว่าสามารถกรองฝุ่นยอดฮิตอย่าง PM2.5 ได้แต่กรองได้แค่ 80% ก็มีเช่นกัน
จากค่าจำเพาะข้างต้นจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เราสามารถอ่านค่าการกันฝุ่นได้ด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น DS2 หมายถึงหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งสามารถกันฝุ่นละออง(อนุภาคของแข็ง) ได้ในระดับ 95% ขึ้นไปนั่นเอง
เมื่อได้รู้จักกับประเภทต่าง ๆ ของหน้ากากกันฝุ่นกันไปแล้ว ก็ต้องมาดูต่อว่าหน้ากากที่เราเลือกนั้นกระชับใบหน้าหรือเข้ากันสันจมูกของเรามากน้อยเพียงใด ? เพราะการใส่หน้ากากที่ดีนั้นควรปิดให้มิดชิดหรือให้เกิดช่องว่างน้อยที่สุดเพื่อป้องกันฝุ่นควันขนาดเล็กซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่จะมีการแบ่งขนาดเป็น S , M , L ให้เราได้เลือกซื้อ
นอกจากนี้สามารถสังเกตตามรูปทรงของหน้ากากได้ด้วยเช่นกัน โดยที่พบได้ทั่วไปคือ ทรงก้นถ้วย (Cup Shape) , แบบพับได้สองชั้น (Falt Fold 2 Panel) , แบบพับได้สามชั้น (Falt Fold 3 Panel) , ทรงปากนกและทรงตัวซี (C-type)
เมื่อได้รู้จักกับชนิดต่าง ๆ ของหน้ากากกันไปแล้ว ก็ได้เวลาของ 10 อันดับหน้ากากกับฝุ่นยอดนิยมที่พกพาความพิเศษเฉพาะตัวมาให้เราเลือกซื้อได้อย่างง่ายดายผ่านทางออนไลน์ และจะมาช่วยเราฝ่าฝุ่นควันและมลพิษในแต่ละวันได้มากน้อยขนาดไหน ไปเริ่มกันเลย
สำหรับหน้ากากรุ่นนี้เป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีพอสมควร เพราะเสริมโครงลวดรวมถึงฟองน้ำรองรับสันจมูกเพื่อช่วยป้องกันการกดทับและช่วยให้กระชับใบหน้าได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับสายรัดชนิด Synthetic Rubber Heavy สามารถปรับระดับได้ รวมไปถึงเทคนิคการซีลขอบหน้ากากอย่างดีเพื่อป้องกันตัวกรองแยกชั้นออกจากกัน ที่สำคัญยังผลิตจากเส้นใยโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ชนิดพิเศษที่มีประจุไฟฟ้าสถิต เพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กและละอองเคมีที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะเลยค่ะ
สำหรับใครที่มองหาหน้ากากเพื่อการทำงานในอุตสาหกรรมไม่ควรพลาด เพราะเป็นหน้ากากที่ช่วยป้องกันละอองพ่นสี ฟูมโลหะ ละอองไม้ ละอองน้ำมัน และฝุ่นละอองตั้งแต่ 0.3 ไมครอนได้เป็นอย่างดี มีแถบโลหะซึ่งสามารถปรับให้กระชับใบหน้าได้ พร้อมด้วยชั้นกรองฟิลเตอร์คาร์บอนรอบหน้ากากเพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้รอบทิศทาง และไม่ว่าฝุ่นละอองจะมีมากแค่ไหนก็ยังหายใจได้สะดวก เพราะมีวาล์วระบายอากาศแบบคูลโฟล (Cool Flow) ที่สามารถถ่ายเทอากาศ ลดความร้อนและความชื้นได้รวดเร็วนั่นเอง
เมื่อพูดถึงดีไซน์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเหนือใคร ก็ต้องยกให้รุ่นนี้ไปเลย เพราะนอกจากการออกแบบความสูงช่วงสันจมูกที่สะดุดตาแล้วตรงนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญซึ่งสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศภายนอกได้ทุกรูปหน้า แผ่นกรองทำจากเส้นใยที่มีความหนาถึง 3 ชั้น และวาล์วคู่เพื่อการระบายอากาศที่ดีขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งกับงานที่ต้องเจอกับฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับสวมใส่เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและกลิ่นที่ไม่มีพิษร้ายแรง และที่สำคัญสามารถนำมาซักล้างทำความสะอาด เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งอีกด้วย
มาต่อกันที่หน้ากากเนื้อบางแต่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองตั้งแต่ขนาด 0.3 ไมครอนได้ ผลิตจาก TPU (Thermoplastic Polyurethane) มีความยืดหยุ่นสูงไม่เสียรูป ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงรวมไปถึงมีผิวสัมผัสอ่อนนุ่มทำให้สวมใส่ได้สบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมวาล์วขนาด 40 มม.ที่ซ้อนด้วยแผ่นซิลิก้าความบาง 0.3 มม. เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถลดความชื้นได้มากที่สุด และด้วยรูปทรงที่ทันสมัยทำให้ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกความคุ้มค่าที่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับหน้ากากกรองฝุ่นจาก RespoKare ที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วยแผ่นกรองถึง 5 ชั้น ซึ่งช่วยป้องกันมลพิษและฝุ่นควันโดยเฉพาะก๊าซจากการเผาไหม้อย่างก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) , ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) , ก๊าซโอโซน (O3) รวมไปถึงสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีแผ่นชี้วัดปริมาณมลพิษที่หน้ากากสะสมอยู่ โดยจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลเข้มเมื่อสัมผัสกับมลพิษจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนใช้ได้ในทันทีและเป็นผลดีต่อสุขภาพไม่น้อย
เป็นหน้ากากกรองฝุ่นทั่วไปที่มีประสิทธิภาพการกรองถึง 95% ตัวหน้ากากทำจากเส้นใยโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) สามารถพับเก็บได้สะดวก มีความละเอียดช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 หรือ PM10 ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคหรือไข้หวัด 2009 (H1N1) ได้อีกด้วย ส่วนด้านบนมีแถบอะลูมิเนียมสำหรับปรับให้เข้ากับรูปจมูกเพื่อเพิ่มความกระชับในการสวมใส่ อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมเท่าไหร่นักเพราะไม่สามารถกรองอนุภาคของของเหลวอย่างละอองน้ำมันได้
พลาดไม่ได้เลยสำหรับหน้ากากตรางูชนิดพิเศษ ผ่านมาตรฐานการทดสอบ GB 2626-2006 ที่มีส่วนช่วยป้องกันจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคหรือก่อให้เกิดการแพ้ เช่น น้ำมูก ไวรัส น้ำลาย เกสรดอกไม้ ฯลฯ หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นที่การออกแบบพร้อมขอบโลหะด้านบนปรับได้ทำให้มีรูปทรงแนบเข้ากับใบหน้าและป้องกันได้อย่างมิดชิด แถมยังมีวาล์วเปิดปิด (Rescue Guard) ซึ่งช่วยระบายอากาศทำให้หายใจสะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป
เป็นอีกหนึ่งหน้ากากที่แม้จะมีประสิทธิภาพการกรองฝุ่นอยู่ที่ 80% แต่ก็ยังได้รับความนิยมด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่ทำจากเส้นใยโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) พร้อมประจุไฟฟ้าสถิตช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็กที่ปนเปื้อนมาในอากาศเช่น ไอระเหย ละอองพ่นสีหรืออนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน แถมยังมีการแทรกแผ่นคาร์บอน (Activated Carbon) ซึ่งช่วยกรองกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีวาล์วระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมช่วยลดความอบอ้าว และแถบอะลูมิเนียมบุโฟมที่ช่วยเพิ่มความกระชับขณะสวมใส่อีกด้วย
สำหรับหน้ากากคุณภาพที่มาพร้อมดีไซน์รูปทรงสามเหลี่ยมพับได้ ก็ไม่ทำให้ผู้ใช้ผิดหวัง เพราะตัวหน้ากากซึ่งผสมผงคาร์บอน ที่ไม่เพียงลดกลิ่นไม่พึงประสงค์เท่านั้นแต่ยังมีกระแสตอบรับว่าเป็นหน้ากากที่ช่วยป้องกันฝุ่นละออง ฝุ่นควัน หรือเชื้อไวรัสได้ดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มเทคนิค Triangle Design เป็นการเย็บแบบพิเศษส่งผลให้หน้ากากไม่กดทับแต่แนบกระชับใบหน้าได้พอดี หรือแม้กระทั่งสายรัดที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ มีความยืดหยุ่นซึ่งช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการรั้งใบหูขณะสวมใส่ได้ดีทีเดียว
สำหรับหน้ากากกรองฝุ่นแบบสายรัดศีรษะสุดคุ้มค่ารุ่นนี้ นับเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นจริง ๆ ด้วยทรง 3-Panel Flat-fold ซึ่งเป็นรูปแบบที่ป้องกันอากาศรั่วไหลด้านขอบได้ดีที่สุดและเพิ่มพื้นที่ใต้หน้ากากทำให้ไม้รู้สึกบีบรัดใบหน้า ทำจากเส้นใยโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) พร้อมประจุไฟฟ้าสถิตพร้อมวาล์วระบายอากาศแบบคูลโฟล (Cool Flow) ที่สามารถลดความร้อนและความชื้นได้หน้ากากได้อย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่นจากงานบัดกรี งานหน้าเตาหลอมหรือฟูมโลหะได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกสถานการณ์จริง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้าง? สำหรับคุณสมบัติที่โดนเด่นและการยึดเกณฑ์มาตรฐานของผู้ผลิตที่แตกต่างกันไป ซึ่งน่าสนใจและน่าซื้อไว้ติดตัวจริง ๆ เพราะฝุ่นขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปดังนั้นเมื่อเราเข้าใจถึงรูปแบบตลอดจนรายละเอียดเฉพาะตัวของหน้ากากแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราเลือกซื้อหน้ากากกรองฝุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานและเป็นทางเลือกเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามหน้ากากกรองฝุ่นเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมที่ช่วยป้องกันได้เบื้องต้นเท่านั้น เพราะเหนือสิ่งอื่นใดถ้าเราช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยการควบคุมแหล่งกำเนิดทั้งในงานอุตสาหกรรมและในชีวิตประจำวัน ให้มีปริมาณฝุ่นละอองลดน้อยลงได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพอากาศที่ดีต่อทุกคนมากขึ้นตามมาเท่านั้นนั่นเอง