รีวิว 9 อันดับ จักรยานพับได้ ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด คลิกเลย!! อัพเดทล่าสุดปี 2567
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากจักรยานพับได้ มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง จักรยานพับได้ และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา จักรยานพับได้ วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ จักรยานพับได้ยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!
2. จักรยานไฟฟ้าพับได้ สกูตเตอร์ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า ําแหน่ง แบตลิเที่ยม 48V จักรยานไฟฟ้า ขนาด 14 นิ้ว กําลังไฟ 400W
3. จักรยานพับได้ Siafei
4. จักรยานพับได้ญี่ปุ่น ghaphis สภาพดี
5. รถจักรยานไฟฟ้าพับได้ รถจักรยานไฟฟ้า Ringo พร้อมรถจักรยานไฟฟ้าสําหรับผู้ใหญ่ 100Km 18.6Mph 100Km พร้อมจักรยานไฟฟ้าแบบเหยียบ จักรยานมินิพับได้กันน้ํา
6. HADOR จักรยานพับได้ 20 นิ้ว เกียร์ 9 สปีด เฟรมChromoly น้ําหนัก 11.5 กก รุ่น TODAY2.0(ปี
7. จักรยานพับได้ 20 นิ้ว Morison แถมกระดิ่งฟรี รถจักรยานพับได้
8. จักรยานพับได้ Journal&Standard
9. JIESUQI จักรยานไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้าพับได้ จักรยานไฟฟ้าขนาดเล็ก จักรยานไฟฟ้าผู้ใหญ่ จักรยานไฟฟ้ามินิ รถจักรยานไฟฟ้า electric bic
เมื่อพูดถึง "จักรยานพับได้" (Folding Bikes) เชื่อว่านักปั่นทุกคนก็จะต้องนึกถึงไลฟ์สไตล์สุดคูล ที่สามารถปั่นจักรยานไปทำงานหรือปั่นเดินทางในระยะใกล้ ซึ่งถือว่าเป็นยานพาหนะที่ตอบโจทย์วิถีคนเมือง เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางแทนการขึ้นรถสาธารณะ, รถไฟฟ้า, ลงเรือ เป็นต้น โดยจุดเด่นของจักรยานพับได้นั้นสามารถพับเก็บไม่ให้เกะกะและช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้อีกด้วย
แต่จักรยานพับได้ก็มีราคาเฉลี่ยค่อนข้างสูงพอสมควร จนเรียกได้ว่ากว่าที่เราจะตัดสินใจซื้อได้ ก็ต้องมานั่งคำนวณงบประมาณเพื่อเฟ้นหาสเปกที่ใช่กันหลายรอบเลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ในการเลือกซื้อที่ดีที่สุด ทางทีมงานมายเบสท์จึงได้นำข้อมูลวิธีการเลือกที่น่าสนใจมาให้ผู้อ่านเอาไว้ใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ พร้อมกับ 10 อันดับจักรยานพับได้ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักปั่นจริง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปค้นหาพาหนะคู่หูที่ถูกใจกันเลยค่ะ
เคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกจักรยานพับได้นั้นมีค่อนข้างหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่ความชื่นชอบและความสะดวกของผู้ใช้ แต่หนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนใช้พิจารณาคล้าย ๆ กันนั่นก็คือ ขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรนั้น มาติดตามกันเลยค่ะ
สำหรับจุดสังเกตแรกที่นักปั่นทุกคนมองหา คือ น้ำหนักของจักรยานที่เหมาะสม รวมถึงขนาดของจักรยานเวลาพับว่าเก็บหรือเคลื่อนย้ายสะดวกหรือไม่ ซึ่งมีหลักในการเลือกดังนี้ค่ะ
คำคุ้นหูในวงการจักรยานที่ว่ากันว่า "ยิ่งเบายิ่งแพง" นั้นถือเป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำเฟรมจะส่งผลให้ตัวจักรยานมีราคาสูงขึ้น ซึ่งหากเป็นเฟรมเหล็กก็จะมีน้ำหนักมากและเกิดสนิมได้ง่าย ในทางกลับกัน หากเป็นเฟรมอะลูมิเนียมก็จะมีน้ำหนักเบา ทนทานและไม่เกิดสนิม
หากคุณต้องการเลือกจักรยานพับได้ที่ใช้งานง่าย แนะนำให้เลือกจักรยานที่มีน้ำหนักประมาณ 10 kg แต่ถ้าใครเน้นจักรยานที่น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เพราะต้องแบกไปด้วยระหว่างการเดินทาง เช่น ต้องแบกขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินหรือขึ้น BTS คุณควรเลือกจักรยานรุ่นที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 10 kg ส่วนคนที่มักจะพกจักรยานพับได้ติดรถไว้ หรือบ้านมีพื้นที่จำกัดจนต้องซื้อจักรยานประเภทนี้ ลองมองหารุ่นที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 15 kg ดูนะคะ
นอกจากวัสดุจะส่งผลต่อน้ำหนักจักรยานแล้ว ขนาดล้อและฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ก็มีส่วนเพิ่มน้ำหนักและราคาให้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้จักรยานพับได้ทั่วไปมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 10-11 kg และมีราคาอยู่ระหว่าง 3,500-10,000 บาท แต่ถ้ามีเกียร์ มีการเพิ่มสปีด หรือมีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเข้ามา ก็จะทำให้จักรยานมีราคาสูงขึ้นมากกว่า 30,000 บาทเลยทีเดียว ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และไม่เกิบงบประมาณของคุณจะดีที่สุดค่ะ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานจักรยานพับได้ คือ ขนาดเมื่อพับแล้วไปจนถึงลักษณะโดยรวมที่พับได้ เพราะแม้ว่าจักรยานจะพับได้ก็จริง แต่หากมีบางส่วนของจักรยานยื่นออกมาเกินช่องจัดเก็บหรือกินพื้นที่มากไป ก็อาจจะส่งผลให้เกิดความทุลักทุเลขณะพกพาหรือเคลื่อนย้ายได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณนำจักรยานพับได้ขึ้นรถเพื่อใช้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ขนาดจากพับแล้วควรพอดีกับขนาดของท้ายรถ มีขนาดกะทัดรัดให้ได้มากที่สุด โดยไม่มีอานจักรยานหรือแฮนด์ยื่นออกมาให้เกะกะ ถึงแม้จักรยานบางรุ่นจะมีขนาดล้อที่เท่ากัน แต่เมื่อพับแล้วก็อาจจะมีขนาดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะการพับของแต่ละรุ่นและยี่ห้อด้วย ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจักรยานพับได้ ควรตรวจสอบคุณสมบัติเหล่านี้อย่างละเอียดนะคะ
กลไกการพับก็ถือได้ว่าเป็นจุดสังเกตที่น่าสนใจในการเลือกซื้อ เพราะวิธีการพับจักรยานของผู้ผลิตแต่ละรายก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งจักรยานเฟรมเบาส่วนใหญ่ มักจะมาพร้อมเทคโนโลยีการพับที่รวดเร็ว คล่องตัว และมีขั้นตอนการพับเพียงไม่กี่ชิ้น โดยทั่วไปจะพับเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น คือ แฮนด์จักรยานและเฟรม แต่ถ้ารุ่นไหนมีชิ้นส่วนเสริมอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ก็อาจจะมีขั้นตอนการปรับหรือพับเพิ่มขึ้นอีก 1-2 จุดได้ค่ะ
นอกจากองค์ประกอบทางด้านโครงสร้างแล้ว คุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายก็เป็นอีกจุดนึงที่น่าสนใจ ซึ่งจะมีวิธีเลือกอย่างไรนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ขนาดล้อของจักรยานพับได้มีขนาดเล็กตั้งแต่ 12 นิ้ว ไปจนถึงขนาดใหญ่สุด 26 นิ้ว ซึ่งข้อดีของล้อขนาดเล็กก็คือ ออกแรงปั่นน้อย แต่ระยะที่เคลื่อนที่ได้ก็จะน้อยตามไปด้วย ทำให้ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน เมื่อเทียบกับล้อขนาดใหญ่ที่ไปได้เร็วและไกลกว่า แต่ต้องใช้แรงปั่นมากกว่านั่นเอง
สำหรับคนที่สนใจจะเริ่มต้นซื้อจักรยานพับเพื่อขับขี่ในเมือง ใช้ไป-กลับจากที่ทำงาน หรือใช้งานทั่วไป แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีขนาดล้อ 14-16 นิ้ว เพราะมีขนาดเล็กที่สามารถพับและพกพาได้สะดวกที่สุด ยิ่งหากล้อมีหน้ายางกว้าง คุณก็จะสามารถขี่ได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นขนาดที่เล็กกว่านี้ แม้จะพับเก็บได้สะดวกแต่ก็อาจจะรับแรงกระแทกขณะปั่นได้ไม่ดีพอ หรือเกิดปัญหาเรื่องการรักษาสมดุลขณะปั่นได้
ถ้าคุณต้องการความมั่นคง ควบคุมง่าย ก็สามารถเพิ่มขนาดไปเลือกแบบ 16-20 นิ้วได้ เพราะมีสัดส่วนโดยรวมที่ใกล้เคียงกับจักรยานทั่วไปมากที่สุด ส่วนใครที่กำลังมองหาจักรยานแกรนด์ทัวร์ ก็อาจจะหันไปเลือกใช้ล้อที่มีขนาดใหญ่กว่า 20 นิ้วขึ้นไปได้ ทั้งนี้การเลือกล้อใหญ่ก็จะมีผลกระทบในเรื่องน้ำหนักและขนาดการพับที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง
การเลือกจักรยานพับได้จากอัตราทดเกียร์ก็ถือป็นส่วนที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ ซึ่งอัตราทดเกียร์ คือ อัตราส่วนจานหน้าต่อเฟืองหลัง (Gear Inch Ratio : GI) หรือที่เราเรียกกันว่า "เกียร์เรโช" นั่นเอง โดยอัตรานี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่า เมื่อจานหน้าหมุน 1 รอบ เฟืองหลังจะหมุนได้กี่รอบและเป็นตัวช่วยบอกเราได้ว่าจะต้องออกแรงปั่นมากน้อยแค่ไหนค่ะ
การคำนวณอัตราเรโชนั้นได้มาจากจำนวนฟันเฟืองจานหน้า หารด้วยจำนวนฟันเฟืองของเฟืองหลัง (มักจะคำนวณในกลุ่มจักรยานที่ไม่มีการปรับสปีดเกียร์) และถ้าหากอ้างอิงตามทฤษฎีอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าต้องมีค่าเรโชน้อย ๆ เข้าไว้ถึงจะดี เพราะอัตราเร่งจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้ว ค่าเรโชยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาประกอบอีกหลายข้อ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กันกับรอบขา (Cadence) ของแต่ละคน ดังนั้น การเลือกและปรับค่าเรโชให้เหมาะสมกับเราจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แต่หากใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับการคำนวณค่าเรโช ค่ามาตรฐานทั่วไปที่แนะนำให้เลือก คือ ประมาณ 2.28 และถ้าต้องการเพิ่มความราบรื่นมากขึ้นก็อาจปรับเพิ่มเป็น 4.2 ได้ อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งค่าเรโชก็ไม่สามารถใช้เปรียบเทียบในกลุ่มจักรยานเปลี่ยนเกียร์ได้เสมอไป เพราะในกลุ่มนี้จะมีการปรับสปีดที่หลากหลายนั่นเองค่ะ
นอกจากการเลือกเฟืองขับแล้ว จักรยานพับได้แบบมีชุดเกียร์ปรับสปีดก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการปั่นในเมืองที่ต้องหยุดรถบ่อยครั้งและต้องเจอทางลาดหรือชันสะพาน พบได้ตั้งแต่ 5-7 Speed และระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พบได้มากที่สุด คือ แบบ Thumb Shift และ Grip Shift
ในรูปแบบ Thumb Shift นั้นเป็นการเปลี่ยนเกียร์โดยใช้คันโยก ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีเพราะเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันทั่วโลก รวมถึงเกียร์ของ Shimano ด้วย ซึ่งเป็นแบบที่ใช้ง่าย สะดวกต่อนักปั่น แต่มีข้อเสียที่มักจะทำให้ข้อมือและนิ้วมือเกร็งหรือเกิดอาการล้าได้ ส่วนแบบ Grip Shift เป็นการหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ตอบโจทย์ความสะดวกและช่วยให้ปั่นสบายมากขึ้นค่ะ
ในกรณีที่ต้องขับขี่บนทางลาดชันหรือต้องแบกขนสัมภาระจำนวนมาก การปั่นจักรยานแบบธรรมดาคงจะทำได้ไม่นานและทำให้เราต้องหมดพลังงานอย่างแน่นอน ดังนั้น การเลือกใช้จักรยานพับไฟฟ้าก็เป็นทางออกที่ดีที่แนะนำ เพราะช่วยทุ่นแรง ลดความเมื่อยล้าได้เพียงแค่บิดคันเร่งเท่านั้น แถมยังช่วยทำความเร็วได้ดีอีกด้วย
การเลือกโดยพิจารณาจากอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตะกร้าหน้า, ขาตั้ง, บังโคลนกันน้ำ หรือกระจกมองข้างก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยประมาณน้ำหนักหรือความสะดวกในการพับได้ โดยจักรยานแต่ละรุ่นก็จะมีอุปกรณ์เสริมที่ต่างกันไป ดังนั้น ควรเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานของตัวเองค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น ขาตั้งคือสิ่งจำเป็นอย่างแรกสำหรับการปั่นในเมือง เพราะเผื่อไว้ในกรณีที่จะต้องนำจักรยานไปจอดตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ที่ไม่มีจุดพิงจักรยาน กล่าวได้ว่า การเลือกอุปกรณ์เสริมแค่เฉพาะที่จำเป็น ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณได้มากขึ้นค่ะ
"จักรยาน" ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ต้องผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม แน่นอนว่ากระบวนการเหล่านั้นต่างก็ต้องมีมาตรฐานการผลิตรองรับเพื่อให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจในสินค้า ซึ่งในปัจจุบันการเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์นั้น มีข้อเสียที่ไม่สามารถเห็นสินค้าจริงได้ ทำให้ในบางครั้ง จักรยานที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยซึ่งกำหนดโดยสมาคมจักรยาน หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ก็สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกได้ค่ะ
นอกจากนี้ การเลือกจากเครื่องหมาย BAA (Stands for Bicycle Association (Japan) Approved) หรือมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมระบบญี่ปุ่นอย่าง JIS (Japanese Industrial Standards) ที่ติดมากับจักรยาน ก็เป็นหนึ่งในการการันตีความปลอดภัยและคุณภาพของจักรยานได้ รวมถึงช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรืออุบัติเหตุจากจักรยานราคาต่ำที่ใช้เฟรมไม่แข็งแรงพอได้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากใครที่มีโอกาสได้เห็นหรือได้เลือกจากสินค้าตัวจริง แนะนำให้ทดลองใช้งานเพื่อดูคุณภาพโดยรวมก่อนการเลือกซื้อค่ะ
แบรนด์ดังที่คุ้นหูหรือแบรนด์ดีที่คุ้นเคย ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อ เพราะผู้ซื้อจะมั่นใจได้ในคุณภาพ แถมยังมีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตา สื่อถึงวัตนธรรมและคุณภาพของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจไปในตัวด้วย
นอกจากรูปลักษณ์และการดีไซน์ที่ดูดีแล้ว ประสิทธิภาพการใช้งานก็ยังสมบูรณ์แบบและมีความทนทานสูง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาจักรยานที่ใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งคุณสามารถเลือกรุ่นที่นำไปใช้ขับในเมืองหรือรุ่นสปอร์ตเพื่อความคล่องตัวได้ค่ะ
ตัวอย่างเช่น หากเราเห็นสัญลักษณ์ DAHON ก็มักจะนึกถึงจักรยานที่มีคุณภาพยาวนานกว่า 30 ปี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ถ้าพูดถึงจักรยานที่ปั่นสนุก มีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา ก็ต้องยกให้แบรนด์ CHEVROLET หรือสำหรับผู้ที่กำลังมองหาความทนทานที่มาพร้อมกับราคาสุดคุ้ม ก็อาจจะเลือกยี่ห้อที่ใช้ชุดเกียร์ของ Shimano เป็นต้น
จักรยานพับได้ที่มีวางขายอยู่ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายยี่ห้อ ทั้งยังมีดีไซน์และคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันไป เราจึงรวบรวม 10 อันดับ จักรยานพับได้ที่น่าสนใจมาให้คุณแล้วในบทความนี้ ซึ่งจะเป็นรุ่นใดยี่ห้อไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ
ออกสตาร์ทกันด้วยจักรยานคุณภาพดีในราคาย่อมเยา โดยในรุ่นนี้มีเฟรมที่ทำจากเหล็ก Hi-Ten ดีไซน์สวย เงางาม มาพร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอย 2 ชั้นที่ผ่านการตัดขอบด้วยเครื่อง CNC ซึ่งมีความแม่นยำสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้สูง รวมถึงใช้ซี่ลวดผ่านการชุบสี เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และยังใช้ระบบ V-Brake หน้า-หลัง ในส่วนของบังโคลนและตะแกรงท้ายที่ติดมาพร้อมจักรยานเป็นเหล็กชุบโครเมียม ทนทานต่อการกัดกร่อน คอแฮนด์สามารถปรับระดับให้รองรับความสูงของผู้ขับขี่ได้ทุกเพศทุกวัย
จักรยานเสือหมอบพับได้ดีไซน์สวยปราดเปรียวรุ่นนี้ ตัวถังเป็นเฟรมเหล็ก Hi-Ten สีขาว มีการเพิ่มโช้คกลางเพื่อช่วยรองรับแรงกระแทก พร้อมล้ออัลลอย 2 ชั้นเพิ่มความแข็งแรง ขับขี่ได้ทุกสภาพถนนและทำความเร็วได้มากยิ่งขึ้น มีดิสก์เบรกหน้า-หลังช่วยเพิ่มความปลอดภัย อานเบาะสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ แฮนด์จับแบบเสือหมอบสามารถปรับก้ม-เงยได้ และยังรองรับน้ำหนักได้ถึง 120 kg อย่างไรก็ตาม จักรยานรุ่นนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก จึงควรต้องพิจารณาน้ำหนักที่ตัวเองรับได้อย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจซื้อด้วยนะคะ
จักรยานรุ่นนี้เป็นเฟรมอะลูมิเนียม 6061 ทรงเทเปอร์พิเศษ ช่วยให้ทรงตัวได้ง่ายขึ้น ใช้ระบบบานพับล็อกพิเศษ 2 ชั้นเพิ่มความแข็งแรง ช่วยรองรับน้ำหนักได้ดี คอแฮนด์และจานเป็นอะลูมิเนียม รวมถึงขอบล้อเป็นชุดอะลูมิเนียม 2 ชั้นที่ถูกออกแบบมาช่วยลดแรงสั่นสะเทือน เกียร์ดุมหลังเป็นเกียร์ Sturmey Archer SRF3 17T ใช้ดิสก์เบรกแบบคาลิปเปอร์อะลูมิเนียม ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยระบายความร้อนได้ดีและมีความสวยงาม อานเบาะขนาด 33.9 cm หุ้มด้วยผ้าบุหนังเทียม ซึ่งมีความนุ่มและนั่งสบายมากทีเดียวค่ะ
จักรยานขายดีอีกรุ่น ที่โดดเดียวด้วยเฟรม Carbon Steel หนาพิเศษ ซึ่งเนื้อเหล็กจะมีความแข็งในระดับที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 90 kg เบรกหน้าใช้ระบบ Caliper Brake ส่วนเบรคหลังเป็นแบบ Drum Brake ซึ่งมีข้อดีกว่าดิสก์เบรก เพราะจะช่วยจับกับฝาครอบเบรกได้แน่นมากกว่า และยังใช้ยางขนาด 20 x 1.75 ทำให้ปั่นได้อย่างสะดวก ตัวแฮนด์เป็นอะลูมิเนียมจึงไม่เกิดสนิมแน่นอน อย่างไรก็ตาม ระบบเบรกรุ่นนี้หากใช้งานเป็นระยะเวลานาน ต้องคอยตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเบรกแตกนั่นเองค่ะ
จักรยานแบรนด์คุณภาพรุ่นนี้ มีตัวเฟรมที่ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยคุณภาพดี น้ำหนักเบา ไม่เกิดสนิม ดิสก์เบรกหน้า-หลังพร้อมจุดยึดช่วยเบรกรวม 6 จุด เพิ่มความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม จานเฟืองหน้า (Cranset) มีจำนวน 48 ฟัน ช่วยทำความเร็วได้ดีขึ้น และขอบยางอะลูมิเนียมอัลลอย 32H ถึง 2 ชั้น ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ ในส่วนของอานเบาะและแฮนด์สามารถปรับขึ้น-ลงได้ นอกจากนี้ จุดพับยังเป็นระบบล็อก 2 ชั้น ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก และช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้มากขึ้นด้วย
สำหรับจักรยานรุ่นนี้มีตัวถังเป็นเฟรมเหล็ก Hi-Ten ทรงกลมสวย และมีท่อนบนเป็นอะลูมิเนียม ชุดคอสามารถปรับระดับได้ มีบันไดพับได้ทั้ง 2 ข้าง ปลอกแฮนด์เป็น Rubber Grip ช่วยให้จับถนัดมือมากขึ้น ใช้ยาง Kenda 406 ขนาด 20 x 1.5 เป็นระบบ V-Break ทั้งหน้าและหลัง เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่ใช้ขับขี่บนทางเรียบเป็นหลัก และที่สำคัญ คือ มีการใช้เทคโนโลยีพิเศษอย่างการใช้สลิงยึดใต้เฟรมเข้ามาช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดแรงกระแทกและทำให้ขับได้นิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ใครที่เป็นสายวินเทจ ลองดูจักรยานพับรุ่นนี้ ที่มีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย ตัวเฟรมทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ใช้ยางของ Kenda 20 x 1.5 ขอบสีน้ำตาล รวมถึงอานเบาะและปลอกแฮนด์ก็เป็นสีน้ำตาลที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกวินเทจ มีระบบพับที่คอเป็นแบบลูกบิดใช้งานง่าย ส่วนจุดพับกลางตัวจะเป็นระบบล็อก 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และมี Guard Gear เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกียร์เสียหายกรณีรถล้ม แต่เนื่องจากคอปรับระดับไม่ได้ รวมถึงช่วงตัวรถค่อนข้างสั้นกว่าปกติ จึงเหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความสูงไม่มากค่ะ
มาที่จักรยานพับจากจีนรุ่นนี้กันบ้าง เรียกได้ว่ายืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่าสุด ๆ โดยมาพร้อมชุดเกียร์เสือหมอบอย่าง Shimano Claris 16 Speed ใช้ยาง Kenda 20 x 1-1/8 60TPI ขอบล้ออะลูมิเนียม 2 ชั้น เพิ่มความทนทาน จานหน้า Prowheel 2 มีดิสก์เบรกหน้า-หลัง ดุมแบริ่งคุณภาพดี ขับขี่ได้ลื่นไหล จุดพับคอได้มาตรฐาน ล็อกได้ดีและนิ่มมือ มีแหวนยางช่วยประคองแฮนด์ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แฮนด์เลื่อนไปทางใดทางหนึ่งขณะพับขึ้น-ลง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเฟรมที่มีหูยึดตะแกรงหลัง ซึ่งสามารถใช้ทำทัวร์ริ่งได้ด้วยค่ะ
จักยานสไตล์ Racing รุ้นนี้ โดดเด่นเรื่องการทำความเร็วได้ดี ตัวเฟรมทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย 6061 ไม่เป็นสนิม ก้านเบรกและรอยพับทำจากอะลูมิเนียม โดยรอยพับในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแรง และตัวแกนปลดล็อกได้รวดเร็ว บันไดปั่นสามารถพับได้ ใช้ระบบ V-Break ทั้งหน้าและหลัง ชุดวงล้อดับเบิ้ลอัลลอยพร้อมซี่สเตนเลสสีดำ มีน้ำหนักเบาและช่วยลดแรงสั่นสะเทือนขณะปั่นได้ดี ใช้ยาง Kenda-Colour Line 20 x 1.75 ใครที่ชอบจักยานทำความเร็วได้ ต้องห้ามพลาดรุ่นนี้เลยนะคะ
จักรยานรุ่นยอดที่ฮิตตลอดกาลที่ใคร ๆ ก็หลงรัก โดยในรุ่นนี้ใช้ชุดเฟรมโครโมลี่ 4130 ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก ช่วยให้ขับสนุกมากขึ้น แต่ก็ต้องคอยดูแลรักษาเพราะมีโอกาสเกิดสนิมได้ง่าย มีป้ายเพลทเป็นสีทอง ใช้ยางจาก Kenda Kwest ขนาด 20 x 1.5 ก้ามเบรกเป็นแบบ V-Break ชุดปลอกแฮนด์ปรับเป็นยางและมีการไขน็อตล็อกเพิ่มเติม ทำให้จับได้กระชับมากขึ้น คออะลูมิเนียมสามารถปรับขึ้น-ลงได้ ใช้ระบบการพับแบบครึ่งเฟรม (DFS) พับง่ายแน่นหนา ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Dahon เลยล่ะค่ะ
การซื้อจักรยานมือสองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคุณอาจจะเจอรุ่นที่หายากในราคาที่ถูกลง และในปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากมายไม่แพ้กับจักรยานมือหนึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรระวังก็คือ ผู้ซื้อไม่สามารถเห็นสภาพสินค้าจริงได้ ดังนั้น หากคุณสนใจเลือกซื้อจักรยานพับได้มืองสอง ควรเลือกซื้อผ่านคนรู้จักหรือควรนัดพบเพื่อจะได้ลองทดสอบจักรยานอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจักรยานมีสภาพดีและตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ค่ะ
นอกจากนี้ ถ้าคุณต้องการซื้อจักรยานมือสองผ่านทางร้านค้าออนไลน์ ขอให้คุณเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีหน้าร้าน เพื่อจะได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพสินค้าจริงได้ในภายหลัง แต่ถ้าคุณไม่สามารถเดินทางไปดูสินค้าได้ หรือผู้ขายไม่สะดวกที่จะให้ชมสินค้า คุณควรขอชมภาพถ่ายจากทางร้านค้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางโทรศัพท์แทน แต่ในท้ายที่สุดหากพิจารณาแล้วว่าราคาจักรยานรวมค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายเพิ่มนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากราคาขายมือหนึ่งเท่าไหร่นัก ขอแนะนำว่าให้เลือกเป็นรุ่นใหม่มือหนึ่งไปเลยจะดีที่สุดค่ะ
ส่งท้ายกันด้วยผู้ช่วยดี ๆ ที่นักปั่นจักรยานพับได้ควรมีติดไว้ นั่นก็คือ "กระเป๋าใส่จักรยาน" ที่มีลักษณะคล้ายถุงคลุมหรือถุงหิ้วที่ผลิตมาจากวัสดุที่แตกต่างกัน มีส่วนช่วยป้องกันรอยขีดข่วน จากการเคลื่อนย้ายได้ แถมยังช่วยให้การยกขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการป้องกันชิ้นส่วนไม่ให้หลุดออกมาสร้างอันตรายแก่ผู้อื่นอีกด้วย
สำหรับขนาดของกระเป๋านั้นก็มีวางจำหน่ายหลากหลายราคา ตามรุ่นและขนาดพับของจักรยาน ซึ่งนอกจากแบบผ้าคลุมแล้ว ยังมีแบบกระเป๋าหิ้วสำหรับผู้ที่ต้องการพกพาและไม่ต้องการเข็นจักรยานไปมาอีกด้วยค่ะ
สำหรับวิธีการเลือกจักรยานพับได้ที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางกายภาพและรายละเอียดทางเทคนิคต่าง ๆ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกคู่มือดี ๆ ที่จะช่วยเราค้นหาจักรยานที่ถูกใจสักคันจนเจอแน่นอน อย่างไรก็ตามดีไซน์ที่โดดเด่นมีสไตล์หรือแบรนด์ดังก็ไม่จำเป็นสำหรับทุกคนเสมอไป เพราะในความเป็นจริงนั้น นอกจากข้อมูลทางเทคนิคแล้ว การได้ปั่นจักรยานที่เราชอบ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ประจำวัน หรือตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ก็เป็นอีกหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราได้เพื่อนร่วมทางที่ดีที่จะไปกับเราได้ทุกที่นั่นเองค่ะ